จากกรณีที่เฟซบุ๊ก Social Hunter v.N2 โพสต์ข้อความว่า ลูกสาววัย 15 ปี ถูกข่มขืนเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ผ่านมา ลูกสาวก็เพิ่งมาเล่าให้แม่อุ๊ฟัง วันที่ 15 มิ.ย. ได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความที่ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต และได้พาลูกสาวไปตรวจหาสารคัดหลั่งของคนร้ายที่โรงพยาบาลถลาง แต่เนื่องจากผลต้องรอเกือบเดือนกว่าจะรู้ผลถึงจะดำเนินการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้ แม่อุ๊กับชายชาวพม่าได้ทำงานไซต์ก่อสร้างที่เดียวกัน และห้องพักก็อยู่ใกล้ๆกัน วันนั้นไม่มีคนอยู่ชายชาวพม่าบุกข่มขืนลูกสาวถึงในห้องพัก ขณะนี้ชายชาวพม่ายังไม่ถูกจับตัว แม่อุ๊กล้วว่ามันจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก และอยากจะขอให้คนมาช่วยหาที่พักที่ปลอดภัยให้กับลูกสาวด้วย
ภายหลังจากข้อความดังกล่าวมีการแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามตามเบอร์โทรศัพท์ที่โพสต์ไว้ เพื่อสอบถามในรายละเอียด จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นแคมป์คนงานไม่มีชื่อ ในพื้นที่ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นแคมป์คนงานขนาดใหญ่ ก่อสร้างหันน้าเข้าหากันหลายห้อง และพบกับแม่ของผู้เสียหายอายุ 32 ปี ที่อยู่ในอาการวิตกกังวล โดยบอกว่าเพิ่งกลับมาจากให้ปากตำเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ถลาง บริเวณห้องแคมป์คนงานดังกล่าวพบผู้เสียหายอายุ 15 ปี นั่งเลี้ยงน้องวัยข 1 ปีเศษ อยู่ด้านหลังแคมป์
แม่ของน้อง เล่าว่า ตนทำอาชีพก่อสร้าง ได้พักอยู่ที่แค้มป์คนงานก่อสร้างดังกล่าวกับพ่อเลี้ยงของน้อง และเลิกกับพ่อของน้องมานานแล้ว และน้องเป็นคนกลาง และตนได้มาแต่งงานอยู่กับสามีคนปัจจุบัน (พ่อเลี้ยงของน้อง)มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 1 ขวบเศษ
ขณะนี้น้องพลอยได้จบการศึกษาระดับมัธยมตอนต้นจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดบ้านเกิด และได้ย้ายมาเข้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่ขณะนี้โรงเรียนยังไม่เปิดเนื่องจากโรคโควิด 19
แม่ของน้องเล่าต่อไปอีกว่า น้องอยู่บ้านเลี้ยงน้องตามลำพังอยู่หลังบ้าน เมื่อตอนเที่ยงวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาถูก นาย ZAW NAING LIN ชาวพม่า อายุ 30 ปี บุกข่มขืนกระทำชำเราขณะเลี้ยงน้องที่หลังบ้าน ครั้งที่ 2 กลางคืนวันที่ 30 พ.ค. ครั้งที่ 3 กลางวันวันที่ 5 มิ.ย. และครั้งที่ 4 กลางวันวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา
“สังเกตเห็นว่าลูกสาวซึมเศร้าผิดปกติ จึงได้เค้นถามความจริง ลูกสาวบอกว่าถูกข่มขืน จึงได้นำลูกสาวเข้าแจ้งความ ที่สภ.ถลาง แต่เรื่องล้าช้า จึงโพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่จับกุม ขณะนี้ตำรวจตื่นตัวได้เตรียมออกหมายจับเพื่อจับกุมผู้กระทำผิดแล้ว โดยตอนนี้รู้สึกไม่ปลอดภัย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่จับคนร้ายก็จะพาลูกสาวไปพักที่บ้านพักสงเคราะห์เด็กก่อน ทุกครั้งที่มันข่มขืนลูกสาวก็จะเอาเงินยัดใส่หน้าอกลูกสาวครั้งละ 100-200 บาท” เธอกล่าว
ด้านเหยื่อที่ถูกข่มขืนเล่าว่า วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนเดินไปเจอหน้าพม่าผู้ก่อเหตุ “เขาบอกว่าพี่ขอมีอะไรหน่อย พี่จะให้ 300 บาท ก็บอกว่าไม่เอา และรีบวิ่งหลบเข้าห้อง ขณะที่นั่งเลี้ยงน้องอยู่หลังแคมป์ คนร้ายก็เดินมาจากไหนไม่รู้ แล้วกอด ตนพยายามที่จะสู้ แต่ไม่สามารถสู้ได้ เขาเอามือปิดปาก จากนั้นเขาก็ข่มขืน เมื่อเสร็จกิจ เขาก็เอาเงินยัดหน้าอก 300 บาทแล้วก็หลบหนีไป”
“ส่วนครั้ง 2 คนร้ายย่องมาตอนกลางคืน เข้ามากอดและใช้มืดปิดปากห้ามเสียงดัง เมื่อเสร็จกินก็หลบหนีไป จากนั้นเขาก็มาให้เงินในต่อนเช้าของวันที่ 31 พ.ค.” ผู้เสียหายเล่า “ครั้งที่ 3 วันที่ 5 มิ.ย. ครั้งที่ 4 วันที่ 9 มิ.ย. ช่วงเที่ยง เขาก็มาข่มขืนอีก ตนหวาดกลัว พยามยามส่งเสียงร้อง เขาก็จะทำร้ายน้อง หนูกลัวเขาจะทำร้ายน้อง เขาข่มขืนเสร็จแล้วก็หลบหนีไปอีก”
หลังจากที่เล่าเหตุการณ์เลวร้ายทั้ง 4 ครั้งให้ผู้สื่อข่าวฟัง น้องผู้เสียหายได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ตอนนี้จิตใจย่ำแย่มาก หวาดกลัว กลัวเขาจะมาข่มขืนอีก อยากให้เจ้าหน้ารที่จับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ทุกวันนี้จะอยู่กับแม่ทุกวันไม่ห่างกัน เพราะคนร้ายยังมาวนเวียนหลายรอบ ถ้ามีแม่ มีคนอยู่ที่บ้านคนร้ายจะไม่กล้าลงมือก่อเหตุ”
ด้าน พ.ต.ท.เสกสรรค คมสาคร รองผกก.สส.สภ.ถลาง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนั้นแม่ของเหยื่อได้มาแจ้งความเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนก็พาไปตรวจที่โรงพยาบาล อยู่ระหว่างการรอผลตรวจจากแพทย์ เพื่อได้สืบสวนขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับ ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย และในขณะนี้ได้เร่งรัดเพื่อจับกุมคนร้ายให้ได้โดยด่วน
