โลมาตัวดังกล่าวเป็นโลมาริซโซส์วัยเด็ก ความยาวประมาณ 250 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม สภาพผอมและอ่อนแรง ไม่สามารถทรงตัวหรือว่ายน้ำได้ นอกจากนี้พบบาดแผลบริเวณโหนกหัวด้านซ้าย ซึ่งเกิดจากการเกยตื้นจำนวนหลายแผล โดยเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยพยุงตัว ให้ยา และสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
น.ส.พัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก เปิดเผยว่า โลมาริซโซส์ตัวดังกล่าวขณะนี้อาการยังทรงตัวอยู่ในขั้นวิกฤติ และยังน่าห่วง มีความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารขณะนี้รอผลตรวจจากห้องแล็บว่าเกิดจากสาเหตุใด ส่วนบาดแผลตามลำตัวที่เกิดจากการเกยตื้นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ให้ยาตามอาการป่วย กินอาหารได้แต่ไม่มากต้องให้น้ำเกลือช่วยเสริม และยังว่ายน้ำและทรงตัวเองไม่ได้ โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้ชูชีพสวมให้เพื่อฝึกการทรงตัว บางช่วงต้องแขวนยึดไว้กับแปลเพื่อให้พักผ่อนและสะดวกต่อการให้ยา
จากการประเมินพบว่าโลมาดังกล่าวยังมีความเครียด เนื่องจากเป็นสัตว์น้ำลึกไม่คุ้นเคยกับบ่ออนุบาลที่มีความแคบและตื้น ต้องใช้เวลาปรับตัวสักระยะ สำหรับแนวทางการรักษาต่อไปนั้น ต้องประเมินอาการวันต่อวัน ขณะนี้ยังต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุที่โลมาตัวดังกล่าวถูกคลื่นซัดเกยตื้นนั้น เนื่องจากมีอาการป่วยจึงเกิดการอ่อนแรง