โอละพ่อ! ชาวบ้านแตกตื่นคิดว่าชายต่างชาติโดดตึก ที่แท้เมาหอบฟูกนอนรับแดด

ภูเก็ต - ชาวบ้านหาดราไวย์ ตกใจคิดว่ามีชาวต่างชาติกระโดดตึกฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ ตัวติดที่กันสาดชั้น 2 โดยไม่ตกกระทบพื้น เป็นภาพอันน่าหวาดเสียว จึงได้แจ้งและเร่งให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการช่วยเหลือ แต่ความจริงปรากฏ ที่แท้เป็นนักท่องเที่ยวหนุ่มเมาอาละวาดทำลายทรัพย์ภายในห้องพัก แล้วขนที่นอนมานอนตรงระเบียงห้อง แต่กลับกลายเป็นการสร้างความหวาดเสียวให้กับผู้พบเห็น

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562, เวลา 18:22 น.

วันนี้ (22 ก.พ. 62) เมื่อเวลาประมาณ 10:30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาล ต.ราไวย์ ได้รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวกระโดดตึกภายในซอยโคกมะขาม ต.ราไวย์ และกระโดดลงมาติดที่กันสาดหน้าระเบียงนอนพักชั้น 2 ยังไม่ตกลงมาถึงพื้นยังรู้สึกตัว เบื้องต้นมีข่ายดับเพลิงทต.ราไวย์ กำลังนำรถกระเช้าเข้าช่วยเหลือ จึงรีบรุดไปยังจุดที่เกิดเหตุ

ร.ต.ท ศักดิ์กรินท์ แสงเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 คน สวมเพียงกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อนอนอยู่บนที่นอนบริเวณระบียงห้องติดกันสาดชั้นที่ 2 ของอาคาร ในสภาพที่ยังไม่สร่างเมา ตามร่างกายไม่พบบาดแผลใด ๆ และตรวจภายในห้องพักพบทรัพยสินภายในห้องพักกระจัดกระจาย

เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกทั้ง 2 คน ให้ตื่นและลงมาบนพื้นผ่านหลังคารถดับเพลิง เนื่องจากหวั่นตกลงมา จากสภาพที่นอนยื่นออกมา จากนั้นนำตัวไปตรวจร่างกายที่ รพ.สต.ฉลอง พร้อมทั้งแจ้งข้อหาเมาและทำลายทรัพย์สิน โดยได้ควบคุมตัวนักท่องเที่ยวไว้ที่ สภ.ฉลอง ตามขั้นตอน

ร.ต.ท ศักดิ์กรินท์ กล่าวอีกว่า จากการ สอบถามรายละเอียดจากเจ้าของห้องพัก ทราบว่า นทท.ทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นชาวเอสโตเนีย คือ นายอีริค ไมสเตอร์ อายุ 37 ปี และนายมาร์เตน โอคส อายุ 24 ปี ได้เข้าพักที่ห้องดังกล่าว วึ่งอยู่บนชั้น 2 เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา ทั้งนี้นักท่องเที่ยวไม่ได้พยายามที่จะโดดตึกตามที่ชาวบ้านเข้าใจแต่อย่างใด เพียงแต่นักท่องเที่ยวได้เคลื่อนย้ายที่นอนออกมาจากห้องนอนไปยังระเบียงบริเวณโดยกันสาดติดอยู่ และทิ้งตัวลงนอนโดยนักท่องเที่ยวมีอาการมึนเมา และอาละวาดทำลายทรัพย์สินภายในห้องพักด้วย

ทั้งนี้ เจ้าของห้องกำลังดำเนินการตรวจสอบทรัพย์ที่เสียหายเพื่อทำการเรียกค่าเสียหาย ซึ่งนักท่องเที่ยวได้รับทราบข้อหาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย และแจ้งว่ายินยอมชดใช้ค่าจ่ายและค่าเสียหายให้กับเจ้าของห้องพัก รวมถึงจ่ายค่าปรับในข้อหาเมาและทำลายทรัพย์สินอีกด้วย โดยทั้งคู่จะเดินทางกลับประเทศ วันที่ 26 ก.พ.นี้

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่