นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้อัพเดทสถานการณ์การเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 และสายพันธุ์ที่เฝ้าติดตามในประเทศไทย ว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ติดตามการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เชื้อไวรัส SARS-CoV-2 พบว่าเชื้อไวรัสมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับสายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกติดตามใกล้ชิดในปัจจุบัน คือ
• สายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง หรือ Variants of Interest (VOI) 1 สายพันธุ์ ได้แก่ XBB.1.5
• สายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง หรือ Variants under monitoring (VUM) 7 สายพันธุ์ ได้แก่ BQ.1*, BA.2.75*, CH.1.1*, XBB*, XBB.1.16*, XBB.1.9.1* และ XBF*
สถานการณ์สายพันธุ์ทั่วโลก สัปดาห์ที่ 12 (วันที่ 20-26 มีนาคม 2566) สายพันธุ์ XBB.1.5 มีรายงานการตรวจพบจาก 95 ประเทศ ส่วน XBB*, XBB.1.16*, XBB.1.9.1* มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
สำหรับประเทศไทย สายพันธุ์ XBB* มีสัดส่วนลดลง แต่ยังคงเป็นสายพันธุ์ที่พบมาก เป็นลำดับที่ 1 โดย XBB.1.16* พบในตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อช่วงเดือนมีนาคม 2566 จำนวน 22 ราย และเดือนเมษายน 2566 จำนวน 5 ราย (XBB.1.16 = 26 ราย และ XBB.1.16.1 = 1 ราย) รวม 27 ราย สายพันธุ XBB.1.9.1* พบมากเป็นลำดับที่ 2
ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับความรุนแรงในการก่อโรค และข้อมูลจากห้องปฏิบัติการแสดงให้เห็นว่า XBB.1.16 มีการเติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ XBB และ XBB.1.5 แต่คุณสมบัติด้านการหลบภูมิคุ้มกันยังคงเหมือนกัน
สายพันธุ์ XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์ลูกผสมจาก BA.2.10.1 และ BA.2.75 มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมบนโปรตีนหนาม องค์การอนามัยโลกจึงจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง (VUM) เมื่อปลายเดือนมีนาคม โดยผู้ป่วยจะมีอาการเยื่อบุตาอักเสบ คันตา มีขี้ตา แต่ยังไม่ชี้ชัดว่าอาการดังกล่าวเป็นลักษณะจำเพาะที่เกิดจากสายพันธุ์ XBB.1.16
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยโควิด 19 ทั่วประเทศ เพื่อตรวจหาสายพันธุ์เพิ่มขึ้น และเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และฉีดวัคซีน ลดการรับเชื้อและแพร่เชื้อ
