ไฟไหม้เรือประมงไม้เก่า 5 ลำ จอดทิ้งติดกันบริเวณแหลมหงา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำหรับความเสียหายสรุปเบื้องต้นเป็นเรือชื่อจำนวน 5 ลำ ดังนี้ 1. ZHANYUAN YU 829, 2. ZHANYUAN YU 814, 3. ZHANYUAN YU 815, 4. ZHANYUAN YU 811 และ 5.YUE XIA YU 90023 โดยมีหน่วยงานร่วมบูรณาการตรวจสอบและควบคุมเพลิงประกอบด้วย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต, สภ.เมืองภูเก็ต, ตำรวจน้ำภูเก็ต, เทศบาลตำบลรัษฎา, ประมงจังหวัดภูเก็ต

สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต รายงานว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ในบริเวณดังกล่าวมีเรือจอดอยู่จำนวน 6 ลำ และเป็นเรือที่จอดติดกันอยู่จำนวน 5 ลำ ซึ่งเรือทั้ง 5 ลำนั้นมีลักษณะเก๋งเรือและเปลือกเรือเป็นไม้ ส่วนท้องเรือเป็นคอนกรีต เสริมหลวดเหล็ก โดยเรือทั้ง 5 ลำจอดในลักษณะเกยตื้น (ติดแห้ง) โดยมีความลึกน้ำประมาณ 1.50 เมตร ไม่พบว่ามีคราบน้ำมันบริเวณดังกล่าว

จากการตรวจสอบเพลิงไหม้พบว่า มีเรือ 2 ลำมีความเสียหายจากเพลิงไหม้ประมาณ 50% และอีก 3 ลำ มีความเสียหายจากเพลิงไหม้ประมาณ 15-20 % โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลรัษฎา สามารถควบคุมเพลิงสงบลงแล้ว พร้อมทั้งได้ฉีดน้ำหล่อเย็น เพื่อป้องเกิดประทุของเพลิงอีกรอบ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้

สำหรับเรือทั้ง 5 ลำนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีไว้กับสภ.เมืองภูเก็ต เมื่อ 30 ตุลาคม 2561 ในข้อหา “ไม่แจ้งเรือเข้า ตาม ม.17 พรบ.การเดินเรือในน่านน้ำไทยฯ” โดยเรือลำดังกล่าวคาดว่ามาจอดทิ้งไว้ประมาณเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มีสภาพผุพังไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งสำนักงานฯ ได้มีหนังสือสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบ ด้วย ด่านตรวจสัตว์น้ำจังหวัดภูเก็ต /ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต/ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ซึ่งผลปรากฎว่าไม่พบการรายงานแจ้งเข้าออกตาม ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ทางด้านด่านศุลกากรภูเก็ตมีหนังสือแจ้งว่า พบการรายงานของเรือ ZHANYUAN YU 814 ไว้กับศุลกากรเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2556 เป็นเรือ Bulk ไม่มีสินค้า สัญชาติจีน ระวางน้ำหนักสุทธิของเรือ 41 คัน ระวางน้ำหนักของเรือ 120 ตัน

จากนั้นในวันที่ 9 เมษายน 2563 สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต ได้มีหนังสือแจ้งสภ.เมือง ให้งดการสอบสวน ส่งสำนวนคืน และหากต่อมารู้ตัวผู้กระทำความผิด ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนต่อไป

ต่อมาสภ.เมืองได้มีหนังสือถึงสำรักงานเจ้าท่าฯ แจ้งงดการสอบสวน เนื่องจากไม่พบตัวผู้กระทำความผิด และสำนักงานเจ้าท่าฯ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการขอสนับสนุนงบประมาณทำลายซากเรือประมงดังกล่าว