หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิต ทราบพร้อมจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ ผกก.สืบสวน.ภ.จว.ภูเก็ต นำกำลังชุดสืบสวน สภ.วิชิต และชุดสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต รุดไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบ น.ส.แก้ว อายุ 31 ปีเป็นพนักงานร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือดังกล่าว ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบสวน น.ส.แก้ว ได้ให้การว่า คนร้ายเป็นชาย แต่งกายใส่เสื้อฮู้ดแขนยาวสีเทา กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าแตะแบบคีบสีแดง สวมใส่แมสก์สีดำและใส่หมวกแก๊ปสีแดง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดหน้าร้าน แล้วเข้ามาภายในร้าน จากนั้นได้เปิดชายเสื้อให้ผู้แจ้งเห็นว่า มีอาวุธได้พกไว้ที่เอวด้านหน้าของคนร้าย ก่อนบังคับให้ผู้แจ้งว่า อย่าส่งเสียงดัง
แล้วสั่งให้เปิดตู้เซฟที่ตั้งอยู่ภายในร้าน จากนั้นได้ให้ผู้แจ้งยื่นเงินสดให้ไปประมาณ 26,050 บาท แล้วคนร้ายได้รีบออกจากร้านขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนี มุ่งหน้าไปยังสามแยกพัฒนาท้องถิ่น ถนนศักดิเดช
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานำพร้อมกับติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดช่วงค่ำวันที่ 27 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต สามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ที่ชิงทรัพย์ ภายในร้านมือถือได้แล้วทราบชื่อคือ นายรัญชน์ธฤต งามธรณกิจ อายุ 29 ปี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสามารถจับกุม ตัวผู้ก่อเหตุได้ที่ร้านชาบู ใกล้กับห้างโลตัส พื้นที่ตำบลวิชิต ซึ่งผู้ก่อเหตุทำงานเป็นเชฟในร้านชาบู สาเหตุที่จี้ทรัพย์ ผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่า เอาเงินไปใช้หนี้ ในการผ่อนรถ จากนั้นตำรวจได้นำตัวไปค้นห้องพักที่ซอยสันติสุข ต.วิชิต เจอเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมอาวุธปืน หลังจากนั้นจึงได้นำตัวนายรัญชน์ธฤตไปทำแผน ประกอบคำรับสารภาพที่ร้านขายโทรศัพท์ดังกล่าว ก่อนที่จะดำเนินคดีต่อไป
