จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ทำให้จังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยว โดยในขณะนี้ทางจังหวัดได้ร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่เร่งฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมและสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้คึกคัก โดยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยมีการลดราคาค่าโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร รถเช่า และโปรโมชั่นต่าง ๆ อีก มากมาย
ในขณะที่สถานบันเทิงและสถานบริการส่วนใหญ่ยังคงซบเซา โดยเฉพาะสถานประกอบการที่มีเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น สถานประกอบการบริเวณถนนบางลา ที่แม้ว่าบางร้านจะมีการเปิดให้บริการแล้ว แต่ยังไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการทำให้บริเวณถนนบางลาที่เคยคึกคักเพราะเป็นสถานบันเทิงของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกซบเซาลงไปถนัดตา เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดได้
นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวในที่ประชุมถึงปัญหาเศรษฐกิจที่ภูเก็ตกำลังแบกรับและบอบช้ำอย่างหนัก พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลผ่านทางรองนายกรัฐมนตรีให้ช่วย “มองเห็นภูเก็ตอยู่ในสายตา” ขอให้รัฐบาลมองเห็นปัญหาที่แท้จริงของภูเก็ตอย่างชัดเจน
“ท่านคงทราบปัญหาของจังหวัดภูเก็ต ในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาพอสมควรแล้ว กระผมอยากให้ทางรัฐบาลพิจารณาภูเก็ตออกจากจังหวัดอื่น ๆ ภูเก็ตถูกมองแบบมาตรฐานเดียว “one size fits all” มาตลอด ภูเก็ตตอนนี้เจ็บปวดมากกว่าทุกจังหวัด เพราะเราต้องการนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตอนนี้เราพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นควารันทีนหรือนักท่องเที่ยวก็ได้ เรามีมาตรการชัดเจนที่จะจัดการในเรื่องนี้ได้ เริ่มตั้งแต่สนามบินภูเก็ต” นายสรายุทธ กล่าว
“ผมอยากให้ท่านรองนายกรัฐมนตรีลองไปเดินป่าตอง ท่านจะได้รู้ว่าป่าตอง กะรน เป็นแบบนี้ได้อย่างไร มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน และเศรษฐกิจของประเทศจะตกต่ำลง เนื่องจากภูเก็ตไม่มีภาษีจ่ายเข้าไป คนฆ่าตัวตาย ความเลวร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภูเก็ตจะแย่ลงอีกมาก”
“ผมมั่นใจว่าท่านมีศักยภาพในการเสนอครม.ให้นัดประชุมครม.สัญจรที่ภูเก็ตสักครั้ง เพื่อมาดูสภาพปัญหาในภูเก็ต ให้ครม.เข้าใจว่าวันนี้ภูเก็ตกำลังเจอกับอะไร และจะได้จัดการปัญหาเบื้องต้นของการท่องเที่ยวได้อย่างชัดเจน” นายสรายุทธ กล่าว
“วันนี้คนตกงานไม่มีเงินชดเชย คนขับรถตู้ไม่มีเงินจ่ายค่างวด ผมต้องการให้ครม.เห็นใจภูเก็ต เห็นภูเก็ตอยู่ในสายตาบ้าง เรียกเก็บภาษีภูเก็ตอย่างเต็มที่ แต่วันที่ภูเก็ตอดอยาก วันที่ภูเก็ตนอนไอซียูไม่เคยมาเหลียวแลเลย พวกเราพยายามช่วยเหลือตัวเองมาเยอะแล้ว โรงพยาบาลสนามที่เปิดในภูเก็ต 100% มาจากเงินของเอกชนทั้งสิ้น ไม่มีจากส่วนกลางมาเลย”
เอกชนวอนรัฐบาลมองเห็น "ภูเก็ต" อยู่ในสายตาในวันที่ภูเก็ตลำบาก
“ท่านถามว่าต้องการให้ช่วยอะไร “ช่วยเห็นภูเก็ตอยู่ในสายตาหน่อยเถอะครับ” ช่วยเห็นภูเก็ตว่าเป็นจังหวัดที่สำคัญต่อการท่องเที่ยว ช่วยเปิดสนามบิน เปิดน่านฟ้า เพราะเรามีความพร้อมในด้านการสาธารณสุข มาตรการป้องกันควบคุมโรคต่าง ๆ ขอให้ตัดสินภูเก็ตด้วยการลงมาศึกษาภูเก็ตให้ชัดเจน” นายสรายุทธ กล่าว
นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมประชุมยังได้มีการเสนอให้จังหวัดภูเก็ตดึงเงินจากอบจ.ภูเก็ต ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด เนื่องจากยังมีเงินคงเหลือจำนวนมาก ซึ่งบางส่วนก็มาจากการจัดเก็บ 1% จากโรงแรมทั่วทั้งเกาะ
ทางด้านตัวแทนท้องถิ่นก็ได้กล่าวว่าชี้แจงว่า ที่ผ่านมาท้องถิ่นได้ใช้งบประมาณ 270.9 ล้านบาทในการต่อสู้กับโควิด-19 ส่วน อบจ.จ่ายในภาพรวมไป 30 ล้าน ปัจจุบันเงินสะสมของอบจ.เหลืออยู่ประมาณ 1 พันล้าน ซึ่งเงินส่วนนี้จะถูกนำไปใช้ในภารกิจอื่น ๆ ในภาพรวมของจังหวัดต่อไป
ผู้ประกอบการอีกราย ได้กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบโรงแรมภูเก็ตใช้เงินส่วนตัวในการต่อสู้กับโควิด-19 ตั้งแต่ที่มีการระบาดของโรค “พวกเราทุกโรงแรมยังต้องหาเงินกันเองเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภูเก็ตกันเองอีกหรือ เราจะขอความช่วยเหลืออะไรจากภาครัฐได้บ้าง”
หลังจากได้รับฟังข้อเรียกร้องและคำถามจากผู้ประกอบการรายนี้ นายจุรินทร์ก็ได้ชี้แจงว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็เพื่อรับฟังปัญหา และหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน
“ท่านอย่าโทษผมสิครับ ผมกำลังแก้ปัญหาให้อยู่ ที่ผมถามผมกำลังจะแก้ปัญหาให้ท่านอยู่ ไม่ใช่ยังไม่ทันทำท่านตำหนิผมแล้ว ที่ผมมาก็เพื่อมาช่วยแก้ปัญหาให้ท่าน ผมกำลังจะไล่ถามทีละหน่วยว่าใครมีตังค์เท่าไหร่จะได้ช่วยท่านได้” นายจุรินทร์ กล่าว
ด้านนายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กลุ่มแรงงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่างงานและตกงานเป็นจำนวนมาก อยากจะขอให้รัฐบาลดำเนินการขยายเวลาการรับเงินชดเชยจากการว่างงานซึ่งเดิมประกันสังคมให้ 62% เป็นจำนวน 90 วัน ขอให้รัฐบาลขยายเวลาให้เงินชดเชยเพิ่มจาก 90 วันเป็น 180 วัน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาแรงงานระดับรากหญ้าที่ตกงาน
ในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจขอ ให้รัฐบาลช่วยเหลือโดยขยายเวลาการชำระหนี้เพิ่มอีก 3 ปีและลดดอกเบี้ยเงินกู้เดิมจาก 7% ให้เหลือ 2%เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำรงธุรกิจต่อไปได้ และขอให้รัฐบาลประสาน ธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ผ่อนปรนเงื่อนไขการขอกู้เงิน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้
ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการหารือส่วนราชการ และททท.พร้อมสนับสนุนงบประมาณจำนวน 6 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้ง 3 กิจกรรมของจังหวัดภูเก็ต ในระหว่าง ส.ค. - ต.ค. ภายใต้แคมเปญ “ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ” ซึ่งประกอบด้วย “Phuket Seafood & Gastronomy Festival” เป็นเวลา 5 สัปดาห์, การแข่งขันกีฬาโต้คลื่น และประเพณีถือศีลกินผักในเดือนตุลาคม
