ผลปฏิบัติการคดีที่ 1 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสาโรช หรือคาว หอมหวน อายุ 43 ปี และ น.ส.จุรี บางจาก อายุ 34 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ ลักษณะเกล็ดผงสีขาวขุ่น 19 ถุง น้ำหนักรวม 6.04 กรัม และยาไอซ์ ลักษณะเกล็ดผงสีขาวขุ่น 1 ถุง 0.62 กรัม, ยาบ้า 9 เม็ด และอุปกรณ์อื่น ๆ โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทศกระเภท 1 (ยาไอซ์, ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย" สถานที่จับ ภายในขนำไม่มีเลขที่ ชุมชนไทยใหม่ ม.2 ต.ราไวย์
คดีที่ 2 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุริยัน ณ ตะกั่วทุ่ง อายุ 31 ปี และ นายประทีป อารีรอบ อายุ 29ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า 20 เม็ด, กัญชาแห้งผสมยาเส้นน้ำหนัก 0.92 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันมียาเสหคิดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเกท 5 (กัญชา)ไว้ในครอบครองโคยผิดกฎหมาย" สถานที่จับกุมภายใน ขนำไม่มีเลขที่ ชุมชนไทยใหม่ ม.2 ต.ราไวย์
คดีที่ 3 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวิกรม ก้องวิรียะกุล อายุ 21 ปี, นายนฤนาท จันทมุวัง อายุ 32 ปี, นายชาญชัย ดำรงเกษตร อายุ 18 ปี และ น.ส.จันทา หาญทรายทอง อายุ 31 ปี ได้พร้อมด้วยของกลางคือ น้ำต้มใบพืชกระท่อม 10 ขวดปริมาตรรวม 13 ลิตร, กากพืชกระท่อม 0.7 กิโลกรัม พร้อมส่วนผสมและอุปกรณ์สำหรับต้มน้ำกระท่อม โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (น้ำต้มพืชกระท่อม) โดยผิดกฎหมาย และร่วมกัน มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 (น้ำต้มพืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย" สถานที่จับกุม ภายในบ้านเลขที่ 50/15 ม.2 ต.ราไวย์
คดีที่ 4 ได้ร่วมกันจับกุม นายวรุถ รอดพันธ์ อายุ 21 ปี ได้พร้อมด้วยของกลาง น้ำต้มใบพืชกระท่อม 1 ขวด บรรจุใส่ขวดพลาสติกใสปริมาตร 500 มล. และ กากพืชกระท่อม น้ำหนักประมาณ 150 กรัม โดยกล่าวหาว่า "มียาสพติดให้โทษประเภท 5 (น้ำต้มพืชกระท่อม, กากพืชกระท่อม)ไว้ในครอบครองโคยผิดกฎหมาย" สถานที่จับกุมภายในบ้านเลขที่ 104/42 ม.2 ต.ราไวย์
เจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ดำเนินการตามกฎหมายและนำตัวผู้เสพเข้าบำบัด จำนวน 1 ราย
นายชูชีพ บำรุง ปลัดอาวุโส อำเภอเมืองภูเก็ต กล่าวว่า ทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการสั่งการให้ทางอำเภอเมืองภูเก็ตได้กำหนดเป้าหมายหมู่บ้านที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดรุนแรง เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ดังกล่าวให้ลดลง โดยเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เสพผู้ค้าหมดไปจากพื้นที่ จากนั้นก็จะบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกต่อไป
