พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณสี่แยกนฤหัส อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากเกิดเหตุตำรวจสายตรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองภูเก็ต ทราบว่าผู้ก่อเหตุภายหลังคือ นายเอกชัย คงฉิมอายุ 35 ปี จึงเรียกตัวมาสอบสวนพร้อมส่งตัวผู้เสียหายคือ นางสาวลัทธิตา คนคล่อง อายุ 29 ปี ไปให้แพทย์ตรวจร่างกาย เพื่อนำมาประกอบการดำเนินคดี
“จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาขับรถอยู่บนถนนเส้นทางเดียวกับผู้เสียหาย และเกือบจะชนกันด้านน้องผู้หญิงจึงตะโกนออกไปว่าขับรถยังไงเกือบชน และมีปากเสียงกันจนกกระทั่งเป็นอย่างในคลิปที่ผู้ต้องหากระโดดถีบผู้เสียหายและคว้าเก้าอี้มาตีผู้เสียหาย ส่วนการดำเนินคดีทางตำรวจก็จะให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพกับเหตุที่เกิดขึ้น” พ.ต.อ.สมพงษ์ กล่าว
สำหรับภาพในคลิปปรากฏเป็นชายขับรถ จยย.ประกบรถจยย.ของหญิงวัยกลางคนรายหนึ่ง ซึ่งมีเด็กเล็กนั่งอยู่ด้านหน้า ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะรีบจอดรถจยย.ของตนเอง แล้ววิ่งเข้าไปกระโดดถีบเข้าที่หัวไหล่ของหญิงคนดังกล่าว จนรถจยย.ล้มลงนั่งกับพื้นพร้อมกับเด็กเล็กที่นั่งมาด้วย จากนั้นชายคนดังกล่าวยังได้คว้าเก้าอี้พลาสติกเข้าฟาดซ้ำ จนหญิงในภาพต้องรีบคว้าเก้าอี้ไว้และใช้มือตอบโต้กลับอย่างพัลวัน แต่ชายคนดังกล่าวพยายามคว้าท่อนเหล็กที่วางอยู่ที่พื้นเพื่อใช้เป็นอาวุธทำร้าย แต่เคราะห์ดีที่หญิงคนดังกล่าวรีบคว้าไว้ทัน ซึ่งระหว่างนั้นเด็กน้อยที่นั่งมาด้วยได้ยืนร้องอยู่ที่ริมถนน ก่อนที่คลิปจะจบลง
ผู้เสียหายเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังขณะเข้าไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองภูเก็ตว่า เวลาประมาณ 16.00 น.ของวันเกิดเหตุ (7 ต.ค.) ตนขับรถมากจากบ้านแฟนพร้อมลูกสาวเพื่อไปบ้านแม่ เมื่อมาถึงบริเวณตลาดโกรเซอร์รี่เห็นว่าผู้ก่อเหตุขับจยย.อย่างช้า ๆ อยู่บริเวณใกล้เส้นกลางถนนตนขับตามหลัง ขณะนั้นผู้ก่อเหตุหันมองด้านซ้ายทำให้ตนเกือบชนท้ายจนตนตกใจ จึงตะโกนบอกให้ขับรถดี ๆ หน่อย และเกิดมีปากเสียงกัน ขณะนั้นมีผู้ชายที่ตนรู้จักอยู่บริเวณนั้นเข้ามาถามว่ามีอะไรกัน ตนบอกไม่มีอะไรผู้ก่อเหตุจึงขับรถออกไปเพื่อเข้าบ้านแม่ที่ชุมขนสะพานร่วม 2 อ.เมืองภูเก็ต
เมื่อมาถึงสี่แยกนรหัส ถ.ศรีเสนา อ.เมือง ได้พบกับผู้ก่อเหตุอีกครั้ง ผู้ก่อเหตุจึงหันมาถามตนว่ามีปัญหาอะไร จนเกิดปากเสียงกันอีกครั้งและเกิดเหตุตามที่ปรากฏในคลิป หลังจากนั้นมีตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุและตนได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองภูเก็ต โดยร้อยเวรได้ให้ไปตรวจร่างกายขอใบรับรองแพทย์ที่โรงพยาบาลและนัดทั้งตนและคู่กรณีมาพบกันที่โรงพักอีกครั้ง
พ.ต.อ.สมพงษ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องนี้เป็นคดีทำร้ายร่างกายธรรมดา ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ประสานสายตรวจให้ตามตัวผู้ต้องหามาที่โรงพักตามระเบียบ ตอนแรกอาจจะดูแล้วมันไม่ค่อยมีบาดแผลอะไรมากมายเท่าไหร่ก็ให้คุยกันก่อน ทางฝ่ายผู้เสียหายเขายืนยันจะให้ดำเนินคดี พนักงานสอบสวนก็ให้ไปพบแพทย์ เพื่อนำรายงานการชันสูตรบาดแผลมาประกอบสำนวนการสอบสวน
“ประชาชนบางท่านอาจจะเข้าใจว่าตำรวจไม่ทำอะไร ขอเรียนว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ เรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ตำรวจไม่สามารถควบคุมตัวหรือจับกุมตัวได้ทันที เราต้องออกหมายเรียกซึ่งทางฝ่ายผู้ต้องหาก็มาตามหมายเรียก ซึ่งต่อไปก็ต้องรอรายงานการชันสูตรบาดแผล เพื่อเจ้าหน้าที่จะพิจารณาว่าควรจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป” พ.ต.อ.สมพงษ์ “
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตั้งใจว่าจะเรียกคู่กรณีเข้ามาคุยในวันนี้ (10 ต.ค.) แต่ปรากฏว่ามีคลิปเผยแพร่ทางโซเชียลตำรวจ จึงได้เรียกทั้งคู่เข้าพบให้เร็วขึ้นกว่ากำหนด
