กลุ่มชาวต่างชาติในภูเก็ตเตรียมร้องดีเอสไอปราบปรามมาเฟียรัสเซียในคราบนักธุรกิจ

ภูเก็ต - กลุ่มชาวต่างชาติที่พูดภาษารัสเซียในภูเก็ตรวมตัวกันยื่นคำร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งความ นายอเล็กเซย์ ซิโนวเยฟ เจ้าของโรงเรียนสอนว่ายน้ำ “อเล็กเซย์ ซิโนวเยฟ” โดยระบุว่า นายซิโนวเยฟ มีพฤติการณ์ใช้อิทธิพลในการกำจัดคู่แข่งทางธุรกิจ

ข่าวภูเก็ต

วันพุธ ที่ 23 ตุลาคม 2567, เวลา 14:49 น.

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายจำนวน 7 รายซึ่งหนึ่งในนั้นคือ อดีตลูกจ้างของนายซิโนวเยฟ ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่า ตนถูกนายซิโนวเยฟข่มขู่ สะกดรอยตาม และคุกคามด้วยวิธีต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการออกหมายจับชายดังกล่าวแต่อย่างใด Novostiphuketa (หนังสือพิมพ์ภาษารัสเซียในเครือเดียวกันกับ ข่าวภูเก็ต) รายงาน

ก่อนหน้านี้ นายซิโนวเยฟได้เดินทางกลับไปยังรัสเซียขณะที่มีคำร้องต่าง ๆ ยื่นต่อตำรวจ แต่เมื่อทางกลุ่มได้รับทราบว่า นายซิโนวเยฟเดินทางกลับมายังประเทศไทยแล้ว จึงได้ตัดสินใจที่จะยื่นคำร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ

หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหาย คือ ปาร์วีซา บาราคาเอวา หญิงชาวอุสเบกิสถาน เธอได้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นไว้ในจดหมายที่ส่งถึงสื่อท้องถิ่นภูเก็ต “ตั้งแต่พวกเราได้ยื่นคำร้องไป เราก็ยังต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวและรู้ดีว่านายซิโนวเยฟจะต้องหาทางแก้แค้นอย่างแน่นอน แล้วในอาทิตย์นี้สถานกงสุลใหญ่รัสเซียก็ได้ยืนยันว่าเขากลับมาประเทศไทยแล้ว” ปาร์วีซา กล่าวในจดหมาย

โดยเนื้อหาในจดหมาย ปาร์วีซาได้ให้รายละเอียดหลักฐานที่ได้ยื่นแก่ตำรวจภูเก็ตเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาไว้ ได้แก่ การข่มขู่คุกคามด้วยวาจาและทางร่างกาย, การสะกดรอยตาม, การทำร้ายร่างกาย, การทำลายทรัพย์สิน และการพยายามฆ่าโดยสร้างให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน

“พวกเราแต่ละคน (กลุ่มผู้เสียหาย) ได้เข้าแจ้งความกันเอง โดยระบุรายละเอียดการใช้อิทธิพลของ นายซิโนวเยฟ เพื่อกำจัดคู่แข่งทางธุรกิจสอนว่ายน้ำ ซึ่งธุรกิจนี้ สอนเด็กเล็ก ๆ ว่ายน้ำอย่างไม่ถูกกฎหมาย เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ยอมรับไม่ได้ แต่ต้องใช้คำว่าอุกอาจ ในการเอาเด็ก ๆ มาเสี่ยงอันตราย” ปาร์วีซา เน้นย้ำ

หลังได้รับการร้องขอ ปาร์วีซาได้นำใบแจ้งความ และหลักฐานอื่น ๆ ที่ผู้เสียหายทั้งหมดได้ยื่นแก่เจ้าหน้าที่สืบสวนของรัสเซียและของสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทยมายืนยัน

การร้องเรียนครั้งแรกเริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ขณะที่คำร้องล่าสุดถูกยื่นไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 และแม้ว่าบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ จะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่เคยถูกเผยแพร่ทางสื่ออย่างเป็นทางการ เนื่องจากผู้เสียหายยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะในขณะนั้น

คำร้องเรียนของผู้เสียหาย ได้สรุปเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจไว้ดังนี้

คำร้องเรียนข้อที่ 1. ผู้เสียหายหมายเลข R1 เดือนพฤศจิกายน 2565

ผู้เสียหายหมายเลข R1 ซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างที่โรงเรียนสอนว่ายน้ำของนายซิโนวเยฟ แจ้งต่อสถานทูตว่า เขาต้องออกจากโรงเรียนสอนว่ายน้ำแห่งนี้ เนื่องมาจากปัญหาเรื่องใบอนุญาตทำงาน และหลังออกจากงาน นายซิโนวเยฟ ได้ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และทำลายทรัพย์สินของผู้เสียหายซึ่งคือ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซีบีอาร์ ใกล้คอนโดมีเนียม บ้านไม้ขาว

“ซิโนวเยฟ ได้สั่งให้ฉันและคนอื่น ๆ จากกลุ่มเดียวกัน (ที่ไม่ได้ทำงานให้เขา) หยุดทำงานที่เราทำอยู่อย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นการตัดคู่แข่งของเขา” ผู้เสียหายหมายเลข R1 อธิบายในแถลงการณ์ร่วมต่อสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย

คำร้องเรียนข้อที่ 2. ผู้เสียหายหมายเลข R1 เดือนกรกฎาคม 2566

ผู้เสียหายหมายเลข R1 พบว่าสายเบรกรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซีบีอาร์ ของตนถูกตัด ขณะจอดค้างคืนไว้บริเวณตึก Homa Phuket Town ในตำบลรัษฎา โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพหนึ่งในผู้กระทำความผิดได้คือ นายซิโนวเยฟ ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

คำร้องเรียนข้อที่ 3. ผู้เสียหายหมายเลข R1 และผู้เสียหายหมายเลข U1 เดือนพฤษภาคม 2567

ผู้เสียหายทั้งสองแจ้งว่า พบอุปกรณ์ติดตาม Apple AirTag ติดตั้งในพาหนะของตน โดยทั้งคู่ไม่เคยรับรู้มาก่อน ซึ่งหลังมีการตรวจสอบและยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารของนายซิโนวเยฟ

ทั้งนี้ ผู้เสียหายหมายเลข U1 อธิบายเพิ่มเติมในคำแถลงต่อสถานทูตว่า นายซิโนวเยฟเคยสะกดรอยตามเธอมาก่อน และบอกเป็นนัย ๆ เรื่องปัญหาที่เธอร่วมงานกับคู่แข่งทางธุรกิจของเขา

คำร้องเรียนข้อที่ 4. ผู้เสียหายหมายเลข R2 และผู้เสียหายหมายเลข R3 เดือนพฤษภาคม 2567

ผู้เสียหายทั้งสองแจ้งว่า หลังปฏิเสธที่จะรับงานจากนายซิโนวเยฟ ทั้งคู่ก็ได้รับคำข่มขู่มาเรื่อย ๆ ในเดือนพฤษภาคม ทั้งสองก็พบอุปกรณ์ติดตาม Apple AirTag ที่รถจักรยานยนต์ของตนเช่นกัน ซึ่งเมื่อตรวจสอบก็พบว่าเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารของนายซิโนวเยฟ จึงได้เข้าแจ้งความในกรณีที่ถูกติดตามอย่างผิดกฎหมาย

คำร้องเรียนข้อที่ 5. ผู้เสียหายหมายเลข R4 เดือนพฤษภาคม 2567

ผู้เสียหายหมายเลข R4 เป็นเจ้าของโรงเรียนสอนว่ายน้ำอีกแห่งหนึ่ง และเป็นนายจ้างของผู้เสียหายหมายเลข R2 และ

R3 โดยผู้เสียหายรายนี้พบอุปกรณ์ติดตาม Apple AirTag ที่รถจักรยานยนต์ของตน ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวก็เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของนายซิโนวเยฟอีกเช่นกัน ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

คำร้องเรียนข้อที่ 6. ผู้เสียหายหมายเลข R5 เดือนพฤษภาคม 2567

ผู้เสียหายรายนี้ระบุในจดหมายที่ส่งถึงสถานทูตรัสเซียว่า เป็นเพื่อนร่วมงานกับผู้เสียหายหมายเลข R4 และพบเหตุการณ์เดียวกันกับผู้เสียหายรายก่อนหน้าคือ พบอุปกรณ์ติดตาม Apple AirTag ที่รถจักรยานยนต์ของตน ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวก็เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของนายซิโนวเยฟ และได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

“จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายใดๆ กับนายซิโนวเยฟ และเขาก็ยังทำเรื่องผิดกฎหมายต่อไปเรื่อยๆ พวกเราหวาดกลัวเรื่องความปลอดภัยจริงๆ” ผู้เสียหายระบุในแถลงการณ์ร่วมต่อสถานทูตรัสเซียเมื่อวันที่ 22 กันยายน

ทั้งนี้ ปาร์วีซา ได้เข้ายื่นจดหมายกับสื่อท้องถิ่นเพื่อทำการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยคาดว่าเธอจะนำเรื่องไปยื่นต่อ กรมสอบสวนพิเศษ (DSI) ในวันพรุ่งนี้ (24 ต.ค. 67)






 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่