ฆ่าโหดเพื่อนหมกขนำ 3 วัน ย่องเงียบเข้ามอบตัว รับสารภาพถูกผู้ตายพูดเหยียดหยาม

ภูเก็ต - หนุ่มใหญ่ฆ่าโหดเพื่อน หมกขนำ 3 วัน ศพขึ้นอืดบนเขื่อนบางเหนียวดำ ย่องเงียบเข้ามอบตัวกับตัวชุดสืบสวน รับสารภาพถูกผู้ตายพูดดูถูกเหยียดหยาม

เอกภพ ทองทับ

วันอาทิตย์ ที่ 23 เมษายน 2566, เวลา 21:01 น.

วันนี้ (23 เม.ย. 66) เวลา11.50 น. พ.ต.ท.นิวัต ทิมเกตุ สว.(สอบสวน) สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับวิทยุแจ้งจากศูนย์วิทยุ พบศพชายไม่ทราบชื่อ ที่บริเวณข้างขนำในสวนผลไม้ บนเขื่อนบางเหนียวดำ ม.7 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิศิษฐ์ ชื่นเพ็ชร ผกก.สภ.ถลาง เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต 

ที่เกิดเหตุพบศพชายไม่ทราบชื่อเสียชีวิตอยู่บนพื้นดินข้างกระท่อม (ขนำ) ภายในสวนผลไม้ในสภาพสวมกางเกงขาสั้นสีดำไม่สวมเสื้อ นอนหงาย ศพเริ่มขึ้นอืด คาดเสียชีวิตมาเเล้วประมาณ 2-3 วัน ตรวจสภาพศพมีบาดแผลโดนด้วยของแข็งบริเวณศีรษะ และใบหน้าส่วนข้างศพพบประแจดัดเหล็กขนาดความยาวประมาณ 70 ซม. ตกอยู่ บริเวณโดยรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ จึงร่วมกับเเพทย์นิติเวชในเบื้องต้น ก่อนส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.วชิระภูเก็ตอีกครั้ง

ต่อมาได้มี นายทักษินย์ หรือต้อง พลวงษ์ อายุ 49 ปี ชาว ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน โดยให้การว่า ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายควนซึ่งเป็นเพื่อนของตนถึงเเก่ความตาย

โดยให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 19.00 น. ตนเองกับผู้ตายได้ชื้อสุรามานั่งดื่มกัน เมื่อเกิดอาการมึนเมาจึงมีปากเสียงทะเลาะกัน จนผู้ตายได้ใช้มือตบที่ใบหน้าด้านซ้ายของตน และต่อว่าด้วยคำพูดที่ว่า “เลี้ยงตัวเองก็ไม่รอด ขนาดเมียก็ยังทิ้งไป ใจมึงไม่ถึงขี้ตีนกู กูจะทำอะไรกับมึงก็ได้" ต่อมาผู้ตายได้เอาประแจดัดเหล็กที่วางอยู่โยนลงพื้นต่อหน้าตนและบอกกับตนว่า "ใจผู้หญิงมึงไม่กล้าหรอก”

จากนั้นตนจึงเกิดบันดาลโทสะ หยิบประแจดัดเหล็กที่ผู้ตายโยนให้ ตีเข้าที่บริเวณใบหน้าของผู้ตาย 3 ครั้ง จนสลบแน่นิ่งไป แล้ววิ่งหลบหนีจากขนำ ไปนอนอยู่บริเวณศาลาข้างเขื่อนบางเหนียวดำ โดยไม่ทราบว่าเพื่อนของตนจะถึงเเก่ความตาย

ด้านเจ้าหน้าที่ระบุว่า จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด จึงเชื่อว่านายทักษินย์ เป็นเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายนายควนผู้ตายจริง จึงได้คุมตัวดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่