สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ปิยะรัตน์ (นามสมมติ) กระทำความผิดฐาน ค้ามนุษย์ ฯลฯ น.ส.ปิยะรัตน์ (นามสมมติ) ให้การว่าได้ขายบริการทางเพศผ่านนายณัฐนิชฯ ซึ่งเป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี และนายณัฐนิชฯ ได้ประโยชน์จากการขายบริการทางเพศดังกล่าว จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน บัญชีธนาคารชื่อบัญชี น.ส.ปิยะรัตน์ (นามสมมติ) พบว่ามีการโอนเงินซื้อบริการทางเพศและโอนต่อให้นายณัฐนิชฯ จริง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ในส่วนของข้อมูลการโอนเงิน การสนทนาผ่านแอปพลิเคชัน พบว่ามีผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เพิ่มเติมอีก 1 ราย คือ น.ส.บี (นามสมมติ อายุ 17 ปี) ซึ่งถูกชักจูงให้เข้าสู่วงการค้าประเวณีตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี โดยมี นายณัฐนิชฯ เป็นผู้ทำหน้าที่เป็นนายหน้าในการค้าประเวณี จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่ออนุมัติขอหมายจับผู้ต้องหารายนี้เพิ่มเติม
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ มาพักอาศัยอยู่ใน พื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบบุคคลซึ่งตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับ จึงได้แสดงหมายจับ แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิ์ นำตัวพร้อมของกลาง ส่ง พงส.กก.6 บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผลปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. และ พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม ผกก.6 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พ.ต.ต.นัฐพล ดาวเวียง สว.กก.6 บก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ปคม.