ชุด PCT ร่วมสืบนครบาล รวบ ยี-ลี่ คู่หูบอสจีนเจ้าของคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์ในบ้านหรู 15 ล้าน

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT ร่วมกับนครบาล รวบสองบอสจีนคู่หูนรก ยี-ลี่ เจ้าของคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน หลังกลับเข้ามาในประเทศไทย ใช้รถ-บ้านสุดหรู ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง (พบข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นจำนวนมาก) พร้อมทั้งยึดทรัพย์สินภายในบ้านหรูหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท

ข่าวภูเก็ต

วันพฤหัสบดี ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568, เวลา 12:47 น.

เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 68 เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT และ บก.สส.บช.น. สืบสวนจับกุมตัว 1. นายยี อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.784/2568 ลงวันที่ 5 ก.พ. 68 และ 2. นายลี่ อายุ 30 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.785/2568 ลงวันที่ 5 ก.พ. 68

โดยกล่าวหาว่า “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใด ๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือยืมบัญชีเงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใด ๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้ในนามของบุคคลหนึ่งแต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้”

จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านย่านรัชโยธิน ซ.พหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ และต่อเนื่องไปจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่ บ้านภายในหมู่บ้านย่านรัชโยธิน ซ.พหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

ตรวจยึดของกลาง 4 รายการ

1. เงินสด (ไทยและต่างประเทศ) มูลค่าประมาณ 417,546.67 บาท

2. ของแบรนด์เนมจำนวนมาก มูลค่าประมาณ 4,305,846.67

3. รถยนต์ Benz Maybach S580e ราคาประมาณ 11,000,000 บาท

4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง (พบข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นจำนวนมาก) รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดมูลค่าประมาณ 15,305,846.67 บาท

แผนประทุษกรรม “กระทืบซ้ำ” มุขใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ทางกลุ่มของคนร้ายจะสร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจและ ปปง. พร้อมคีย์เวิร์ด “ติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืน” และทำการ “ยิงแอด” โฆษณาปั่นยอดไลค์ให้เพจดูมีความน่าเชื่อถือ ทำให้ประชาชนในโลกโซเชียลหลงเชื่อว่าเป็นหน่วยงานจริง ๆ แต่เมื่อทำการติดต่อไปจริง ๆ จะถูกหลอกลวงเข้าไปในกลุ่มไลน์ไปสู่การ “ถูกหลอกซ้ำ” อีกครั้ง ซึ่งในกลุ่มไลน์ที่จะมี ทนายตัวปลอม ผู้เชี่ยวชาญ หัวหน้าฝ่ายไอที ฯลฯ ทำทีสร้างชาร์จเส้นทางการเงินให้เหยื่อดู ก่อนอ้างว่าเงินที่ถูกหลอกไหลไปสู่เว็บพนันในต่างประเทศ จะต้องให้ฝ่ายไอทียิงระบบนำเงินคืนมา ต่าง ๆ นานา ซึ่งปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแก๊งสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้านหลาย ๆ แห่ง ต่างหันมาใช้แผนประทุษกรรมนี้ในการหลอกลวงเป็นจำนวนมาก

การสืบสวนสอบสวนแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งสืบทราบจากที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.หัวหมาก ซึ่ง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น.ทำการสืบสวนสอบสวนร่วมกับตำรวจ PCT และ พ.ต.ท.สมเจตน์ พลเหลา สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก จนนำมาสู่การค้นพบ “บิ๊กบอส” ชาวจีนที่เป็นหัวหน้าแก๊ง 2 ราย คู่หูนรก ลี-ยี่

ซึ่งต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับคนร้ายทั้งสอง พล.ต.ต.ธีรเดชฯ นำกำลังตำรวจ PCT ออกติดตามไล่ล่าคนร้าย กระทั่งได้สืบทราบว่าคนร้ายเข้ามาในประเทศไทย มาเช่าบ้าน-ขี่รถหรู อยู่ใจกลางกรุง ในวันที่ 5 ก.พ. 68 ทีมสารวัตรแจ๊ะได้นำกำลังเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่หน้าหมู่บ้านหรูย่านรัชดา ได้พบกับ นายลี กำลังนั่งรถโดยสารมาที่หมู่บ้านเพื่อนมาหาคู่หู จึงรวบตัวไว้ทันที โดยในระหว่างรวบตัว นายลี กำโทรศัพท์ไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

ซึ่งหลังจับกุมนายลีได้แล้วชุดสืบสวนขยายผลไปที่บ้านหรูภายในหมู่บ้านดังกล่าว ก่อนบุกเข้าไปในบ้านพักเพื่อจับกุมตัวนายยี่ แต่เมื่อมาถึงหน้าห้องนอนของนายยี่ไม่ยอมเปิดประตูให้จนชุดสืบสวนต้องใช้กำลังพังประตู บุกเข้าไปรวบตัวได้ทันควัน ก่อนที่นายยี่จะวิ่งไปลบข้อมูลในโทรศัพท์ ซึ่งหลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้ขยายผลจากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบว่า ทั้งสอง เป็นระดับ “บิ๊กบอส” มีธุรกิจ คอลเซ็นเตอร์, สแกมเมอร์ และบริษัทฟอกเงิน หลายแห่งในประเทศเพื่อนบ้าน

ล่าสุดทั้งสองหันมาจับการหลอกลวงแบบ “ยิง SMS” โดยล่าสุดเพิ่งจะหาซื้อข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์กว่าหลายแสนเบอร์เพื่อจะนำมายิง SMS หลอกลวงนี้ และยังพบข้อมูลในโทรศัพท์การเข้าถึงควบคุม “หลังบ้าน” ของสแกมเมอร์ที่มีที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอีกเพียบ หลังขยายผลชุดสืบสวนได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินภายในบ้านหรูแห่งนี้หลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท และในชั้นจับกุม นายยี และ นายลี่ ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ขณะนี้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ / ผอ.ศปอส.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ขยายผลการจับกุม ณ บ้านหรูดังกล่าว เพื่อปฏิบัติการกวาดล้างตามนโยบายของรัฐบาล ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่