ทภก.เปิดใช้บริการระบบ Biometric เพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร

ภูเก็ต - บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) โดยท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) เปิดใช้บริการระบบ Biometric สำหรับผู้โดยสารภายในประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว และช่วยลดระยะเวลาการรอคิวของกระบวนการผู้โดยสาร

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2567, เวลา 13:11 น.

ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) โดยนำเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร ซึ่งผู้โดยสารสามารถลงทะเบียนใช้งาน ณ ท่าอากาศยาน ได้ 2 วิธี คือ (1) ผู้โดยสารสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบิน ที่เคาน์เตอร์เช็กอิน เพื่อลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (Common Use Terminal Equipment : CUTE) หรือ (2) ผู้โดยสารสามารถลงทะเบียนผ่านเครื่องเช็คอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service : CUSS) ซึ่งระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ดังนั้น เพื่อเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารใน 3 กระบวนการ คือ การโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop : CUBD) การตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร (Passenger Validation System : PVS) และขั้นตอนการขึ้นเครื่อง (Self-Boarding Gate : SBG) โดยไม่ต้องแสดงบัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง (Passport) และ Boarding Pass อีกต่อไป ซึ่งระบบดังกล่าว ทอท. เปิดใช้บริการสำหรับผู้โดยสารภายในประเทศ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 จะเปิดให้บริการสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ พร้อมกันทั้ง 6 ท่าอากาศยาน ของ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)

  1. ทอท.ยกระดับบริการนำระบบไบโอเมตริกเพิ่มความสะดวกเช็กอิน-ขึ้นเครื่อง ในประเทศ 1 พ.ย. ต่างประเทศ 1 ธ.ค.

นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (ผภก.) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้โดยสารที่ลงทะเบียนใช้งานระบบ Biometric ผ่านเครื่องเช็คอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (CUSS) ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบ Smart Card หรือ หนังสือเดินทาง (Passport) เท่านั้น สำหรับผู้โดยสารที่ลงทะเบียนใช้งานผ่านเคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบิน สามารถใช้เอกสารแสดงตนที่ออกโดยรัฐ ตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ บัตรประตัวข้าราชการ เป็นต้น รวมถึงผู้เดินทางที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือผู้ที่มีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act : PDPA) จะแบ่งออกเป็น 2 หลักเกณฑ์ คือ กรณีอายุไม่เกิน 10 ปี จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง และกรณีที่มีอายุเกินกว่า 10 ปี สามารถลงทะเบียนผ่านระบบฯ ได้ โดยไม่ต้องได้ความยินยอมจากผู้ปกครอง ทั้งนี้ ในการใช้บริการระบบ Biometric นั้น จะมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์คอยอำนวยความสะดวก และแนะนำการใช้งานในทุกขั้นตอน




 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่