ภายหลังดูพื้นที่เกิดเหตุ (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบชุดเครื่องนอนให้กับแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 6 คน ณ สำนักงานขายโครงการฯ และเดินทางต่อไปยังวัดสว่างอารมณ์หรือวัดราไวย์ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือในส่วนของค่าทำศพให้กับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย รายละ 33,000 บาท ช่วงบ่ายที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ จะได้เดินทางเข้าเยี่ยม แรงงานที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งยังคงรักษาตัวอยู่อีก 2 คน ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
รศ.ดร.จักร กล่าวว่า ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้มอบหมายให้ตนในฐานะที่ปรึกษามาตรวจเยี่ยมแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ และจะเข้ามาดูแลในเรื่องของสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ในส่วนของการจ่ายเงินชดเชย แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ สำหรับกลุ่มแรกคือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 6 คน จะดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้ เรื่องการเจ็บป่วย อีก 2 คน ที่ยังอยู่โรงพยาบาล จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วยังมีเรื่องค่าชดเชยการขาดรายได้อีก สำหรับผู้เสียชีวิตมีเงิน 2 ส่วนส่วนแรกเป็นค่าทำศพ และยังมีเงินชดเชยอีกเบ็ดเสร็จแล้วจะได้รับรายละประมาณ 750,000 กว่าบาท ในส่วนของนายจ้างมีการทำประกันชีวิตให้อีก ก็จะเป็นในส่วนของนายจ้างที่จะดำเนินการต่อไป
จากการช่วยเหลือของรัฐบาลไทยทางเมียนมามีความพึงพอใจเพราะว่าเราทำตามกฎหมาย เป็นมาตรฐานซึ่งเราใช้กับทั้งคนงานไทยและแรงงานต่างชาติด้วยเหมือนกัน เราไม่ได้เลือกปฏิบัติ และเราจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็ว
นางมารศรี ใจรังสี ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานประกันสังคมนั้นจะดูแลในเรื่องของการให้สิทธิ ให้ความคุ้มครองและให้หลักประกันให้กับลูกจ้างในการประกันตน กรณีนี้จากการตรวจสอบพบว่า ลูกจ้างที่ประสบเหตุจากการทำงาน ซึ่งในส่วนของนายจ้าง คือ บริษัท ภูเก็ตบิวท์ จำกัด ซึ่งมีการขึ้นทะเบียนนายจ้างอย่างถูกต้องตั้งแต่เดือนเมษายน 2545 โดยลูกจ้างที่ประสบเหตุทั้ง 11 ราย มีการยื่นทะเบียนประกันตนครบทุกราย จะได้รับเงินจากกองทุนทดแทนตาม พ.ร.บ.กองเงินทุนทดแทน ทุกประการ
กรณีบาดเจ็บ เช่น จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริงที่ 50,000 บาท สูงสุดที่ 2 ล้านบาท, เงินทดแทนการขาดรายได้ให้ 70 % ของค่าจ้างสูงสุดที่ 1 ปี เป็นต้น กรณีลูกจ้างที่เสียชีวิตจำนวน 3 ราย เงินค่าทำศพ จำนวน 33,000 บาท และเงินให้กับทายาทเป็นเงินทดแทนกรณีเสียชีวิต เป็นเงิน 70% ของค่าจ้างเป็นเวลา 10 ปี ยอดเงินเบื้องต้นกรณีนี้ เป็นเงิน 33,000 บาท และเงินทดแทน 720,720 บาท รวมก้อนแรกที่จะได้รับเป็นเงิน 750,000 บาทเศษ ต่อราย ส่วนกรณีของลูกจ้างที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหากมีการสูญเสียก็จะมีเงินทดแทนกรณีเสียอวัยวะ 70% ของค่าจ้างเช่นกัน สูงสุดจ่ายเป็นเวลา 10 ปี โดยจะต้องมาดูว่าสูญเสียอวัยวะส่วนใด ทั้งนี้อยู่ระหว่างการประสานนายจ้างในการยื่นแบบแจ้งการประสบอันตรายและติดต่อผู้มีสิทธิเพื่อมารับเงินทดแทนต่อไป โดยสำนักงานประกันสังคมพร้อมจะจ่ายทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ทางวีไอพีไทยแลนด์ได้ออกหนังสือแถลงการณ์แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า “ ในนามเจ้าของโครงการ วีไอพี เมอร์คิวรี่ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตดังที่ทราบโดยทั่วกัน ทางโครงการและผู้ก่อสร้างขอให้คำมั่นว่าจะทำการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างสุดความสามารถ ทั้งนี้ สาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เป็นในส่วนอาคารต้อนรับส่วนหน้า ซึ่งแยกส่วนทั้งโฉนดและใบอนุญาตก่อสร้างออกจากโครงการหลักที่เป็นคอนโด ดังนั้นการก่อสร้าง ในส่วนของคอนโดยังดำเนินการได้ตามปกติ ในส่วนอาคารต้อนรับส่วนหน้าที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ หากได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ที่เข้าทำการดูแลและตรวจสอบถึงสาเหตุเมื่อใด ทางโครงการจะทำการประกาศและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยว ข้องทราบโดยพลัน และทางโครงการขอขอบคุณหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เข้ามาช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการนี้อย่างรวดเร็วด้วย”
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
