ตามที่ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. สั่งการให้ตรวจสอบ กรณีปรากฎ นักท่องเที่ยวต่างชาติโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ ถูกร้านเช่ารถจักรยานยนต์พื้นที่ป่าตองเรียกค่าเสียหายเกินจริง โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 67 เวลาประมาณ 16.30 น. พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สวญ.ส.ทท.กก.2 บก.ทท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ชาญณรงค์ รอดทองดี สว.ส.ทท.1ฯ พร้อมด้วย ชป.สืบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปรากฏรายละเอียด พบว่า ร้านตั้งอยู่บน ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง เปิดเป็นร้านธุรกิจนำเที่ยวและให้เช่ารถจักรยานยนต์ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว พบ นางสาว นันทิยาฯ แสดงตัวเป็นภรรยาเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ปรากฎอยู่ในคลิปที่เป็นข่าว
ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงตรวจสอบแล้วตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ประมาณเดือน เม.ย.2567 ที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติ ได้มาทำสัญญาเช่ารถจักรยานยนต์ 2 คัน ในอัตราคันละ 350 บาท ต่อวัน โดยก่อนเช่ารถจักรยานยนต์ผู้ประกอบการรถเช่าได้แจ้งให้ผู้เช่าทราบแล้วว่า
1. ให้ผู้เช่าตรวจสอบตัวรถโดยรอบและให้ถ่ายภาพรถทั้ง 4 ด้านไว้ หากเกิดกรณีความเสียหายกับตัวรถให้ผู้เช่าเป็นคนรับผิดชอบโดยไม่ได้ตกลงราคาความเสียหายไว้ ซึ่งนักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพและคลิปวิดีโอตอนเช่ารถไว้แล้ว
2. กรณีคืนรถ ให้ผู้เช่ารถเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เท่ากับตอนเช่ารถไป
ต่อมาเมื่อถึงกำหนดคืนรถตามสัญญาเช่าปรากฎว่า รถจักรยานยนต์ มีร่องรอยเฉี่ยวชน ได้รับความเสียหายบริเวณด้านข้างรถ ผู้ประกอบการประเมินความเสียหายแล้วค่าเสียหายประมาณ 2,000 บาท เนื่องจากจะต้องเปลี่ยนเฟรมอะไหล่ทั้งชิ้น จึงแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบ ซึ่งนักท่องเที่ยวได้ตรวจสอบรอยดังกล่าวแล้ว แต่ต่อรองจะขอจ่ายเพียง 250 บาท ผู้ประกอบการจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ป่าตอง เพื่อเป็นคนกลางในการเจรจา สามารถตกลงกันได้ นักท่องเที่ยวยินยอมจ่ายในราคา 1,000 บาท
ผู้ประกอบการมาทราบอีกครั้งจากสื่อสังคมออนไลน์ว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้เผยแพร่ต่อสาธารณชน ตั้งแต่ประมาณหนึ่งเดือนหลังเกิดเหตุ ทั้งนี้ผู้ประกอบการยอมรับว่าได้มีการ เก็บหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวไว้เพื่อเป็นประกันจริง เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่ประสงค์จะวางเงินสดเป็นประกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอตรวจสอบประวัติและข้อมูลใบอนุญาตขับรถของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว ปรากฏว่าผู้ประกอบการไม่สามารถแสดงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ประกอบการไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อเปรียบเทียบปรับในข้อหา “ยินยอมให้ผู้อื่นขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ” ต่อไป และได้เน้นย้ำกำชับ ให้เข้มงวดกับการให้เช่ารถกับผู้มีใบอนุญาตขับรถเท่านั้น และห้ามมิให้มีการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวกรณีรถได้รับความเสียหายเป็นอันขาด
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับตำรวจป่าตอง ออกตรวจประชาสัมพันธ์ร้านรถเช่าและนำเเผ่นสติกเกอร์มาตรการในการให้เช่ารถ แก่ชาวต่างชาติมาประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ป่าตอง เพื่อเน้นย้ำกำชับให้ร้านปฏิบัติตามกฎหมาย ให้เกิดความถูกต้องและความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว
ในขณะที่ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตตั้งเป้าลดอุบัติเหตุจากจักรยานยนต์นักท่องเที่ยว โดยผู้เช่ารถต้องมีใบอนุญาต และขับไม่เกิน 40 กม./ชม. โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับภาคีเครือข่าย Kick off ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้รถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในจังหวัดภูเก็ต ก่อนการเช่ารถต้องมีใบอนุญาตขับรถ ขับขี่ความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มีประกันภัยและสำเนาทะเบียนรถให้พร้อมด้วย
Novosti Phuketa (หนังสือพิมพ์รัสเซียในเครือเดียวกับข่าวภูเก็ต) รายงานว่า จากการเข้าไปดูช่อง YouTube ของนาย Rokas Magic ได้เผยให้เห็นการมาเยือนประเทศไทยของเขาที่ใช้คำว่าเต็มไปด้วย "กลโกงแบบคลาสสิก" หรือ "classic scams" ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมานานหลายทศวรรษ
ไม่ว่าจะเป็น คนขับรถแท็กซี่ปฏิเสธที่จะใช้มิเตอร์, "วัดชื่อดัง" ในกรุงเทพฯ ปิดเนื่องในวันหยุดทางพุทธศาสนา, ร้านขายเครื่องประดับที่ถูกกล่าวหาว่าขาย "เพชรราคาแพงเกินไป" และสิ่งที่เรียกว่า "การแสดงปิงปอง" ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่การแสดงปิงปอง ซึ่งวิดีโอ YouTube Shorts แต่ละคลิปของเขาทำให้ Rokas Magic มียอดวิวจำนวนหลายพันครั้ง
และสิ่งที่น่าสนใจคือในวิดีโอแบบเต็มในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเพียงคลิปเดียวของเขา Rokas เปิดเผยว่าเขาจงใจตกเป็นเหยื่อกลโกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเปิดโปงของเขา อย่างไรก็ตาม วิดีโอรถเช่าในภูเก็ตของเขาไม่มีข้อความปฏิเสธหรือการไม่ยอมรับ ทำให้ผู้ชมคิดว่านี่เป็นประสบการณ์ที่แท้จริงของเขา
