นายโสภณ กล่าวภายหลังการประชุมหารือว่า “วันนี้ทางกรมทรัพยากรชายฝั่งของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติได้มาพูดคุยกับทางจังหวัดเนื่องจากพะยูนได้อพยพมาจากจังหวัดตรัง กระบี่ มาอยู่ที่ภูเก็ตตอนนี้ปประมาณสัก 30 ตัวขึ้นไปในบริเวณป่าคลอกไปจนถึงหาดราไวย์”
“วันนี้จึงมีการประชุมร่วมกันแล้วมีการตั้งคำสั่งคณะทำงานและชุดลาดตระเวนโดยให้ทางผู้อำนวยการ ทรัพยากรธรรมชาติและชายฝั่งไปขีดเส้นบริเวณที่พะยูนอาศัยแล้วออกประกาศ ทั้งในส่วนของกรมเจ้าท่าและกรมประมงและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวประมง ผู้ประกอบการ และสถานประกอบการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสปีดโบ๊ท หรือสกู๊ตเตอร์ต่าง ๆ ที่ให้เขาทราบว่าบริเวณใดที่จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยพี่น้องประมงเองบริเวณใดที่ห้ามวางอวนที่ป้องกันไม่ให้พะยูนเข้าไปติดแล้วก็เสียชีวิต ซึ่งต้องขอความร่วมมือพี่น้องประมงชายฝั่งพี่น้องที่อยู่ริมฝั่งทั้งหมดพี่น้องประชาชนเข้ามาช่วยกันดูแลอนุรักษ์รักษากลุ่มพะยูน”
ตั้งชื่อพะยูนทั้ง 30 ตัว
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวอีกว่า ทางจังหวัดจะตั้งกลุ่มไลน์ชื่อว่า “รักพะยูนภูเก็ต” และเปิดโอกาสให้ประชาชนสมัครเข้ามาในกลุ่มนี้ได้เพื่อที่จะช่วยกันดูแล ซึ่งทางกรม ทช. จะดําเนินงานเรื่องการปลูกหญ้าทะเล และหาพืชผักชนิดอื่นที่สามารถทดแทนกันได้ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการทดลองไปแล้วและเห็นผลพอสมควร ในโอกาสต่อไปจะมีการสร้างคอกในทะเล เพื่อที่จะดูแลรักษาตัวที่ป่วยไข้ให้เข้าอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่จํากัดไว้ เพื่อให้ปศุสัตว์เข้าไปดูแลรักษา
“ขอรบกวนพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะพี่น้องชาวประมงช่วยเป็นหูเป็นตา ผู้ประกอบการ ผู้ที่ใช้กิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ทะเลกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ทะเลเป็นประมงก็ตาม ช่วยกันดูแลอนุรักษ์รักษาพะยูนของเราด้วย ถ้าเจอที่ไหนช่วยส่งข่าวอาจจะลงในกลุ่มไลน์ได้อยู่สมัครกลุ่มไลน์ทางจังหวัดจะได้ทราบว่าเขาอยู่บริเวณไหน โดยขณนี้กำลังจะให้ตั้งชื่อ 30 ตัวจะต้องตั้งชื่อทั้งหมดแล้วก็ลองดูลักษณะทางกายภาพ ผู้เชี่ยวชาญอาจจะต้องรู้ตามทํากายภาพแล้วตั้งชื่อให้แต่ละตัว เพื่อให้ทราบพิกัด ก็ลองตั้งชื่อกันมาดูได้”
ด้าน อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีบัญชาให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงมาในพื้นที่ร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ตมาช่วยจัดการเรื่องพะยูน
“ปัจจุบันเกิดวิกฤตของพะยูนในประเทศไทยซึ่งเป็นสัตว์สงวนเสียชีวิตค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะในปีนี้จำนวน 33 ตัวแล้ว จึงจำเป็นที่ต้องมาทำร่วมกันเพื่อเร่งรัดในการที่จะปกป้องฝูงพะยูนในการอาหารที่เหมาะสมสำหรับเขาโดยเฉพาะเรื่องปัญหาหญ้าทะเล ซึ่งในวันนี้กรมทรัพยากรทางทะเล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีดำริที่จะเอาโมเดลของที่ราไวย์ที่ทางจังหวัดทำค่อนข้างจะสำเร็จแล้วดที่มีการประกาศพื้นที่และลดภัยคุกคามกับพะยูนที่อพยพเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเรือ เรื่องของการทำแนวเขต การส่งเสริมกับประชาชนและการลดภัยจากคุกคามจากการประมง มาขยายเขตในพื้นที่ป่าคลอกซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ที่พะยูนอยู่มากกว่า 20-30 ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดให้ความสำคัญกับการร่วมมือของพี่น้องประชาชนที่ตั้งกลุ่มไลน์เฉพาะกิจขึ้นมาทำงานเรื่องนี้”
“ตอนนี้ในเรื่องของอาหารที่ลดลงในการที่ได้พยายามหาผักหรือพืชมาเป็นอาหารเสริม มาทดแทน มีความสำเร็จในระดับหนึ่งเพราะพะยูนได้เข้ามากินอาหารเสริม เช่นผักบุ้งหรือกวางตุ้ง แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีปัญหาในเรื่องของสัตว์มีชีวิตอื่นมาแย่งอาหารพะยูน โดยทางเราพยายามวิจัยอยู่ว่าตัวไหนที่เหมาะสมที่สุด และเอาแนวคิดนี้ขยายผลไปยังที่อื่นที่พะยูนอดอาหารไม่มีอาหารกิน ทั้งนี้ได้มีการคาดการณ์ประมาณ 4-5 เดือนแล้วว่าในจังหวัดตรัง และกระบี่มีแหล่งอาหารไม่สมบูรณ์ ซึ่งพื้นที่เป้าหมายที่พะยูนจะมาก็คือ ภูเก็ต พังงา ซึ่งทางเราก็มีการติดตามอย่างใกล้ชิดว่าเขาไปที่ไหน จำนวนเท่าไร นอกจากนั้นยังมีการทำการประชาสัมพันธ์กับชุมชนในพื้นที่ด้วยให้ทราบว่าพะยูนจะมาซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับระหว่างส่วนกลางกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด” อธิบดีกรมทะเล กล่าว