โดยให้เปิดสถานประกอบการ แต่ยังคงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค และให้คงมาตรการการปิดสถานที่บางแห่งชั่วคราว พร้อมทั้งเฝ้าระวังควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ได้มีคำสั่งที่ 3018 /2563 เรื่อง ผ่อนคลายการบังคับการปิดสถานที่และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตรายในท้องที่จังหวัดภูเก็ต ภายใต้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 5 ฉบับที่ 6 ฉบับที่ 7และฉบับที่ 9) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 โดยคำสั่งฉบับนี้มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 มิถุนายน) เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้คำสั่งฉบับดังกล่าวมีภาคผนวกแนบท้ายแบ่งออกเป็น ภาคผนวก ก. ภาคผนวก ข. และภาคผนวก ค. จำนวนทั้งสิ้น 35 หน้า เพื่อชี้แจงในรายละเอียดว่าสถานที่ใดสามารถเปิดทำการได้และสถานที่ใดยังคงปิดอยู่ตามประกาศเดิม รวมไปถึงข้อกำหนดและมาตรการที่ต้องปฏิบัติตาม ภายใต้มาตราการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
สำหรับในบางประเด็นสำคัญของประกาศฉบับนี้ ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนคือ “การเปิดสถานที่หรือสถานประกอบการ” และ “มาตรการผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต”
โดยอนุญาตให้มีการเปิดสถานที่หรือสถานประกอบการ ประเภท โรงแรมทุกประเภทที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย, สถานที่การดําเนินกิจการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง, พื้นที่การให้บริการจัดทําบัตรประจําตัวประชาชน ในสํานักทะเบียนจังหวัด สํานักทะเบียน อําเภอ สํานักทะเบียนท้องถิ่น, สํานักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตและสาขาทุกแห่งในท้องที่จังหวัดภูเก็ต และสถานประกอบการสําหรับกิจการหรือธุรกิจนําเที่ยว บริษัทนําเที่ยวที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย
ในส่วนของมาตรการผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต อนุญาตให้เดินทางผ่านช่องทางบกด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต (ท่าฉัตรไชย) ประชาชนผู้เดินทางเข้ามาต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค การจัดระบบและระเบียบต่าง ๆ ที่ทางราชการกําหนด เช่น ระบบลงทะเบียนขาเข้า-ออกภูเก็ต PhuketSmartCheck-In (ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป) กำหนดโดยตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต หากพบว่าผู้เดินทางมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรค หรือเป็นพาหะนําโรค พนักงาน เจ้าหน้าที่มีอํานาจในการสั่งแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อเพื่อป้องกันการแพร่ ระบาดของโรคได้
อนุญาตให้เดินทางผ่านช่องทางน้ำระหว่างจังหวัด ผู้เดินทางมาต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค การจัดระบบและระเบียบต่าง ๆ ที่ สํานักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กําหนด และหากต้องสงสัยว่าเป็นโรคต้องถูกสั่งแยกกักกันตัวตามกฎหมายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับช่องทางเข้า-ออก ทางน้ำระหว่างประเทศยังคงปิดอยู่ตามคำสั่งเดิม โดยห้ามเรือทุกชนิดและบุคคล เข้า – ออก ยกเว้นเรือบรรทุกสินค้า ขนส่งสินค้าตามความจําเป็น เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็วโดยไม่ อนุญาตให้ลูกเรือ และ/หรือ คนประจําเรือลงจากเรือโดยเด็ดขาด เว้นแต่ บุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผัน
สำหรับมาตรการผ่อนคลายการเดินทางทางอากาศนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตระบุว่า ขณะนี้จังหวัดภูเก็ตกำลังรอคำสั่งจาก ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ว่าจะอนุญาตให้สนามบินภูเก็ตเปิดดำเนินการได้เมื่อไหร่อย่างไร