วันนี้ (10 ก.พ. 68) ที่โรงเรียนในพื้นที่ตำบลป่าตอง นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายเฉลิมศักดิ์ มณีศรี นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง, นางสาวลลิตา มณีศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง, นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 2 จังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ ผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรป่าตอง, พ.ต.ท. วิเชษฐ์ สุวรรณโณ รองผู้กำกับการฝ่ายสอบสวน, หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต, ผู้แทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ผู้ปกครองของเด็กและหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเด็กนักเรียนมีร่องรอยบาดแผลตามร่างกาย และมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย
นายรณรงค์ กล่าวว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจังหวัดภูเก็ต โดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน ในส่วนของสถานีตำรวจภูธรป่าตองจะดำเนินการทางด้านกฎหมาย และในส่วนของจังหวัดได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต จัดเจ้าหน้าที่ด้านจิตวิทยาเพื่อเข้ามาพูดคุยกับเด็ก เพื่อสอบหาข้อมูลข้อเท็จจริงในการที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”
“นอกจากนี้ในส่วนของการดูแลเด็กจะให้ความสะดวก และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ปกครอง หากผู้ปกครองต้องการที่จะย้ายเด็กไปเรียนโรงเรียนอื่นก็พร้อมที่จะประสานให้ และขอความร่วมมือทุกภาคส่วน รวมถึงสื่อมวลชนขอให้ระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูล เพราะผู้ได้รับผลกระทบเป็นเยาวชน ขอให้คำนึงถึงสิทธิของเยาวชนที่อาจจะได้รับผลกระทบ จากการนำเสนอข้อมูลในสื่อต่าง ๆ” นายรณรงค์ กล่าว
ทางด้านนายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตรวจสอบข้อมูลและมีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โอกาสนี้ น.ส.ลลิตา กล่าวเสริมว่า ทางเทศบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ยืนยันสัญญาว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายแน่นอน เบื้องต้นจึงอยากขอให้ทุกท่านรอการพิสูจน์จากหลักฐาน
ซึ่งทางเทศบาลเมืองป่าตองได้วางแผนที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในห้องเรียนทั้ง 13 ห้อง เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียน พร้อมกันนี้จะมีการจัดทำโครงการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมภายในห้องเรียน เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ปกครองด้วย
ด้าน พ.ต.ท.วิเชษฐ์ กล่าวว่า “ในส่วนของเจ้าหน้าที่อยากจะขอให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ข้อมูลที่เป็นจริงแก่เจ้าหน้าที่ เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็มีกระบวนการในการที่จะตรวจสอบ เพื่อให้ได้ความจริงและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”
“ทางผู้ปกครองฝ่ายเด็กที่ถูกกระทำ ขณะนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ได้รับและกังวล เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของเด็กในโรงเรียน เบื้องต้นจึงอยากจะขอให้ลูกหยุดพักการเรียนก่อน โดยจะของานจากคุณครูให้เด็กทำที่บ้าน และอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าในปีต่อไปจะให้ลูกเข้าเรียนที่โรงเรียนใด”
และในส่วนของผู้ปกครองของเด็กที่ถูกกล่าวหาทำร้าย กล่าวว่า “อยากจะให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยอยากรู้ว่าลูกของตนเองได้ทำร้ายเพื่อนจริงหรือไม่ หรือมีเหตุการณ์อื่นที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นก็ได้มอบเงินค่ารักษา 4,000 บาทให้กับผู้ปกครองของอีกฝ่ายเพื่อแสดงความรับผิดชอบ”
หลังจากนี้นักจิตวิทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการทำงานบูรณาการกัน เพื่อหาข้อเท็จจริงในการที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย