“หมาเห่า” สาเหตุยิงกราดเจ็บ 3 ราย ลูกชายอาการปลอดภัยให้การได้ พ่อแม่ยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน

ภูเก็ต – คืบหน้าเหตุเพื่อนบ้านฉุนเดือดยิงกราดพ่อ แม่ ลูก ภายหลังลูกชายอาการปลอดภัยให้การกับตำรวจว่า สาเหตุเกิดมาจาก เพื่อนบ้านสุดทนเนื่องจากเหตุสมาชิกบ้านผู้บาดเจ็บไม่สามารถจัดการกับสุนัขที่เลี้ยงในบ้านไม่ให้เห่าเสียงดังได้ ก่อนกลับมาอีกครั้งพร้อมอาวุธปืนและเปิดฉากยิงคนในบ้าน ตำรวจวิชิตเตรียมขอออกหมายจับ

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 10 เมษายน 2561, เวลา 11:55 น.

จากกรณีเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย. 61) เวลา 23.30 น. ร.ต.ท.หญิง ขวัญสิรินาฏ ไทยราช รอง สว.(สอบสวน)ฯ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.วิชิต ว่ามีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงภายในหมู่บ้านธินวุฒิซอย 3 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ม.3 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย โดยเจ้าของบ้านเป็นครูสอนนาฏศิลป์ ภรรยาและลูกชายได้รับบาดเจ็บด้วย (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ร.ต.ท.หญิง ขวัญสิรินาฏ จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ โดยทราบจากพยานที่พักอาศัยอยู่บ้านหลังฝั่งตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุว่าผู้บาดเจ็บจำนวน 3 คนเป็นครอบครัวที่มี พ่อ แม่ และลูกชาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต จึงได้เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ

“ตรวจสอบพบว่าบริเวณหน้าบ้านมีคราบโลหิตจุดใหญ่เปื้อนเป็นทางออกมาจากด้านในบ้านจนถึงประตูรั้วบ้าน เมื่อเข้าสำรวจบริเวณหน้าบ้านภายในรั้วบ้าน พบปลอกกระสุนปืนจำนวน 6 นัดและลูกกระสุนปืนจำนวน 1 นัด ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ปรากฏตามภาพถ่าย และพบว่าภายในบ้านที่เกิดเหตุนั้นมีกองเลือดและคราบเลือดกระจายอยู่ทั่วทั้งบ้าน เมื่อได้ทำการถ่ายภาพที่เกิดเหตุ พร้อมจัดทำแผนที่เกิดเหตุจึงได้ทำการปิดกั้นล้อมสถานที่เกิดเหตุไว้เพื่อรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูเก็ต เข้ามาตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง” ร.ต.ท.หญิง ขวัญสิรินาฏ กล่าว

จากนั้นได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อติดตามอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อไปถึงทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ได้แก่ นายสมชาย เคียงจันทร์ อายุ 41 ปี ซึ่งยังรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉินไม่สามารถให้การได้ คนที่สองคือ น.ส.อุรารัตน์ ส่องสิริสมบัติ อายุ 43 ปี ซึ่งยังรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉินไม่สามารถให้การได้ และนายธนวัฒน์ เคียงจันทร์ อายุ 20 ปี บุตรชายของนายสมชายและน.ส.อุรารัตน์อาการพ้นขีดอันตรายแล้วและสามารถให้การได้ จึงได้เข้าทำการสอบถาม

ร.ต.ท.หญิง ขวัญสิรินาฏ กล่าวว่า ในเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ขณะที่นายธนวัฒน์พร้อมด้วยครอบครัวกำลังรับประทานอาหารภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุอยู่นั้น ได้มีนายพันปกรณ์ สุวรรณฤทธิ์ (ทราบชื่อนามสกุลจริงภายหลัง) ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 12/390 (บ้านหลังติดกัน) ได้เดินเข้ามาที่บ้านของนายธนวัฒน์ที่เกิดเหตุ และได้ตะโกนบอกว่า “ช่วยเงียบเสียงของสุนัขให้หน่อย” และได้เดินกลับไป

จากนั้นนายธนวัฒน์ก็ได้พยายามเงียบเสียงของสุนัขที่บ้านแล้วโดยการขังไว้ในห้องแต่สุนัขยังคงส่งเสียงดังเห่าอยู่เหมือนเดิม จากนั้นนายพันปกรณ์ได้เดินเข้ามาที่บ้านของนายธนวัฒน์อีกครั้ง พร้อมกับอาวุธปืนและมีท่าทางโมโหหนักมาก (สอบถามนายธนวัฒน์ไม่ทราบว่าเป็นอาวุธปืนชนิดและขนาดใด) หลังจากที่คนในบ้านไม่สามารถเงียบเสียงของสุนัขได้ จากนั้นจึงได้เล็งอาวุธปืนและยิงเข้าไปที่มารดาของนายธนวัฒน์ พอเห็นดังนั้นซึ่งนายธนวัฒน์จึงได้เข้าไปห้ามแต่กลับถูกนายพันปกรณ์ยิงสวนกลับมาที่ตนจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณโคนขาขวาจนล้มลง ทันใดนั้นนายสมชาย ได้พูดขอร้องนายพันปกรณ์ว่า “อย่ายิง อย่ายิง” แต่นายพันปกรณ์ไม่ฟัง กลับเล็งอาวุธปืนไปที่บิดาของนายธนวัฒน์และยิงรัวเข้าไปที่ร่างของนายสมชายจำนวนหลายนัด และนายพันปกรณ์ได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน จากนั้นนายธนวัฒน์จึงได้คลานออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านแต่ก็ไม่พบผู้ใด จึงได้โทรศัพท์เรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ

ร.ต.ท.หญิง ขวัญสิรินาฏ กล่าวอีกว่า ภายหลังจากการสอบถามนายธนวัฒน์ จึงได้ส่งสำเนาภาพถ่ายทะเบียนราษฎร์ของ นายพันปกรณ์ สุวรรณฤทธิ์ ให้นายธนวัฒน์ดูโดยนายธนวัฒน์ได้ยืนยันว่าบุคคลตามภาพคือชายที่ถืออาวุธปืนเข้าไปกราดยิงครอบครัวของตนถึงภายในบ้านที่เกิดเหตุจริง

ทั้งนี้ นายธนวัฒน์ได้ชี้ยืนยันบุคคลไว้เนื่องจากไม่สามารถเขียนหรือลงลายมือชื่อใด ๆ ได้ จากนี้จะได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุญาตศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับนายพันปกรณ์ผู้ต้องหารายนี้ต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่