หลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุมทางการสืบสวนและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่การดำเนินคดีและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ 2 ราย เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณหน้าวิลล่าริมหาดโรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ร.ต.ท.พลากรน์ นวลสุทธิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ตได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เส้นทางการหลบหนี สอบปากคำพยานไปแล้ว ทางชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ตรวจค้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง เร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วภายใต้กรอบของกฎหมายและให้ประสานการปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศแคนาดาประจำประเทศไทย ซึ่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคดี เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) ร.ต.ท.พลากรน์ นวลสุทธิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ตได้ขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายจับ 2 คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาวแคนาดาอดีตทหาร คือ นายแฌเนอ คาร์ล ลาร์คัมพ์ (GENE KARL LAHRKAMP) อายุ 36 ปี และ นายแมทธิว เลอ็องดร์ โอวิด ดูเปร (MATTHEW LEANDRE OVIDE DUPRE) อายุ 36 ปี
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงถึงความคืบหน้าในกรณีกลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุฆาตกรรมชายชาวต่างชาติที่ภูเก็ต ดังนี้
หลังจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังห้องประชุม ศปก. ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เพื่อประชุมเร่งรัดการดำเนินคดีและติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา ที่ได้ก่อเหตุฆาตกรรมชายชาวต่างชาติ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ในวันที่ 12 ก.พ. พนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อประกอบการได้ยื่นคำร้องขอหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ต และศาลจังหวัดภูเก็ตได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นชายสัญชาติแคนาดา ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หรือเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันสมควร และยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน” มีอายุความ 20 ปี
“ขั้นตอนต่อไปหลังจากศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานไปยังองค์การตำรวจสากล เพื่อพิจารณาออกหมายแดง (Red Notice) เพื่อแจ้งให้ประเทศสมาชิกทั้ง 195 ประเทศทั่วโลก ให้ช่วยดำเนินการแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พร้อมทั้งทำการจับกุมตัว เพื่อเข้าสู่กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในไทยต่อไป” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งรัดทำการสืบสวนและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยว
