โดยได้เดินทางเข้ามาเทียบท่าตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 5 พ.ย. และในวันที่ 6 พ.ย. เป็นวันแรกที่เปิดโอกาสให้ประชาชนและชาวต่างประเทศที่ลงทะเบียนในระบบไว้ เข้าเยี่ยมชมได้เป็นวันแรก ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไปถึง 19.00 น. และจะมีไปจนถึงวันที่ 10 พ.ย. นี้ อย่างไรก็ดีหากประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศพี่พลาดโอกาสในการกรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์เข้าเยี่ยมชมเรือยังสามารถ Walk inได้ทุกวัน และเจ้าหน้าที่ประจำเรือจะพิจารณาให้เข้าเยี่ยมชมตามความเหมาะสม หลังจากนั้นเรือจะมุ่งหน้าไปจอดทอดสมอที่มุมไบเมืองหลวงของมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย โดยมี นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทยพร้อมด้วยกัปตันเรือและลูกเรือร่วมต้อนรับและนำชมเรือ ในพื้นที่สำคัญต่าง ๆ โดยมีพี่น้องประชาชนชาว จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง ชาวต่างประเทศและ นักท่องเที่ยวที่อยู่ภูเก็ต รอเข้าชมเรืออย่างตื่นตาตื่นใจเป็นจำนวนมาก จนส่งผล ทำให้ระบบการจองเข้าชมเรือเต็มจำนวนอย่างรวดเร็วอย่างไรก็ดี ทางกัปตันเรือยังให้โอกาสผู้ที่ลงทะเบียนจองไม่ทัน สามารถ Walk in เข้ามาได้เลย แต่อาจไม่สามารถขึ้นมาบนเรือได้ทุกคน
นายเปาโล ดีโอนีซีเอกอัคร ราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทยกล่าวว่านับเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญหรือครั้งแรกที่เรือสำเภาAmerigo Vespucci มาเยือน จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย หลังจากที่เรือลำนี้ประจำการในช่วง สงครามโลกครั้งที่2 และตระเวนไปยังน่านน้ำต่าง ๆ 5 ทวีปทั่วโลกเป็นครั้งที่2ในรอบหลายสิบปี และออกจากท่าเรือเมืองเจนัวร์ ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. 66 และจะเดินทางกลับประเทศอิตาลีในวันที่ 25 มิ.ย. 68 และโดยส่วนตัว เป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศไทยจึงมีความรักประเทศไทยเป็นทุนอยู่แล้วประกอบกับเป็นการเรียกร้องจากลูกเรือว่าอยากจะมาเยือนที่ภูเก็ตประเทศไทยสักครั้งหนึ่ง และการมาเยี่ยมเยือนภูเก็ต ในครั้งนี้ ยังบ่งบอกถึงการที่ ประเทศอิตาลีและประเทศไทย มีความสัมพันธ์ที่ดี ต่อกันอย่างแน่นแฟ้น เป็นเวลานานถือ 156 ปี
สำหรับก่อนที่เรือจะมาแวะจอดที่ภูเก็ต มาจากท่าเรือเบลาวัน เมืองเมดาน จังหวัดสุมาตราเหนือประเทศอินโดนีเซียโดย มีตัวแทนนักเรียนนายเรือไทยจำนวน 8 นายเข้าร่วมฝึก ภาคสนามกับลูกเรืออิตาลีปรากฏว่าการฝึกเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสมบูรณ์เนื่องจากนักเรียนนายเรือไทยมีทักษะความรู้ความสามารถและสามารถทำงานร่วมกับลูกเรืออิตาลีได้เป็นอย่างดี
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่าในนามของจังหวัดภูเก็ตประเทศไทยมีความยินดีที่ได้ต้อนรับเรือสำเภาลำนี้ เพราะประเทศไทยและประเทศอิตาลีมีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อเนื่องมาเป็นเวลานานแล้ว และเนื่องในมหามงคลวโรกาสวันวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทยร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดจัดงานกาลาดินเนอร์ในคืนวันที่ 8 มิ.ย. นี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติโดยจะมีการเดินแบบในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย
เรีอสำเภาลำนี้ เป็นเจ้าของฉายาว่า “เรือใบที่สวยที่สุดในโลก” หรือ “the most beautiful ship in the world” สร้างขึ้นเมื่อปี 1930 หรือมีอายุ 94 ปีในปัจจุบัน สำหรับฝึกทหารเรือของอิตาลี กำลังเดินทางแล่นกางใบไปน่านน้ำรอบโลกเพื่อเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมของอิตาลี โดยจะแวะให้ผู้สนใจเข้าชมตามเมืองท่าสำคัญต่าง ๆ 15 แห่ง โดยบนเรือ นอกจากจะเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานแล้ว ยังมีภัตตาคารอิตาเลียน และรายการบันเทิงต่าง ๆ สำหรับผู้สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอิตาลีอีกมากมายด้วย
ในขณะเดียวเรือ ลำนี้เปรียบเหมือนกับหมู่บ้านอิตาเลี่ยนจะจัดฉายภาพยนตร์อิตาเลี่ยนที่มีชื่อเสียงถึง 5 เรื่อง จัดแสดงนิทรรศการ, รวมถึงคบเพลิงโอลิมปิกจากมหกรรมโอลิมปิกครั้งแรก ๆ ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพ รวมถึงรูปสำริด La David ผลงานของสถาปนิกอิตาเลี่ยน จาโก โดยตีความจากผลงานประติมากรรมระดับโลกของไมเคิล แอนเจโล่