จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ของวันที่ 7 ม.ค.65 พ.ต.ท.(หญิง) นุชจรี ล่องแก้ว สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทโดยใช้อาวุธปืน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย จากนั้นในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ได้เสียชีวิตลงแล้ว 2 ราย คือ นายศรายุธ ถิ่นสถาน อายุ 57 ปี และนางต้อย ลิมปนานุรักษ์ อายุ 51 ปี (*ชาตะ 29 กันยายน 2513)
ส่วนผู้ก่อเหตุ นายมณีนพ หรือบังณี หมีทอง อายุ 49 ปี พ่อค้ากุ้ง คนร้ายที่ก่อเหตุหลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไป จนกระทั่งพบรถคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่บริเวณท่าเรือแหลมหิน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทราบว่าได้นั่งเรือหางยาวหลบหนีไปยังเกาะมะพร้าว แล้วหลบหนีไปลงเรือไปขึ้นฝั่งที่อ่าวนาง จ.กระบี่แล้วขึ้นรถบขส.ไปยัง จ.สงขลา ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ม.ค. กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ที่ทำการย่อยอำเภอหาดใหญ่ พร้อมชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ชุดสืบสวน ภาค 8 ได้จับกุมนายมณีนพหลังพยายามหลบหนีก่อนจนมุมที่หาดใหญ่ ก่อนจะมีการส่งตัวกลับพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมกับแถลงข่าวที่จังหวัดภูเก็ต และในวันที่ 10 ม.ค. ณ สภ.เมืองภูเก็ต
ด้านนายมณีนพรับสารภาพว่า ปมเหตุที่เกิดขึ้นมาจากการเก็บกดเป็นนาน มีปัญหากรณีขัดแย้งธุรกิจค้าขายกุ้งมานานกว่า 6 ปี และ ยืนยัน "ไม่ขอโทษ" ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด
ล่าสุดวันนี้เวลา 12.00 น. ครอบครัว ญาติ ๆ เพื่อนร่วมอาชีพและลูกค้า จำนวนกว่า 30 คน ได้ร่วมกันทำพิธีเคลื่อนศพ นายศรายุธ และนางต้อย ออกจากศาลาอภิธรรมศพไปยังเมรุเผาศพวัดแสนสุข บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
ทันทีที่มีการเคลื่อนศพป้าติ๋มซึ่งเป็นพี่สาวของนางต้อย ที่ยังทำใจรับไม่ได้กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของน้องสาวและน้องเขย ได้ร้องไห้ออกมาด้วยเสียงอันแหบแห้งปานจะขาดใจ รำพึงรำพันถึงน้องสาวอยู่ตลอดเวลา ที่ทำพิธีศพฌาปนกิจศพทั้งสอง
สำหรับในการจัดพิธีในวันนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุ 7 ม.ค.65 อดีตภรรยาและญาติมือปืนโหดยังไร้วี่แวว ที่เข้ามาแสดงความรับผิดชอบในการกระทำอย่างโหดร้ายของนายมณีนพ หรือบังนี มือปืนโหด