ร.ต.อ.รณภูมิ เพิ่มพูน รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต เร่งรุดไปยังที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้ง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู สวป.สภ.เมืองภูเก็ต, ร.ต.อ.เวชศักดิ์ จุลอดุง รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต, เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลรัษฎา และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมรถดับเพลิง โดยยืนยันเช้านี้ว่าเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในบริเวณคานเรือเอเชียน (ทางเข้าองค์การสะพานปลา) ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่หลังจากคานเรือสิกิจที่ข่าวภูเก็ตได้รายงานไปก่อนหน้านี้ (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
ร.ต.อ.รณภูมิ กล่าวว่า เมื่อเดินทางไปถึงยังที่เกิดเหตุได้พบว่าไฟกำลังลุกไหม้ภายในตัวเรือซึ่งอยู่ระหว่างการซ่อมแซมอย่างรุนแรง และมีควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามไปติดเรือข้างเคียง แต่การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีลมพัดแรงทำให้ไฟลุกลามไปทั่วเรือทั้งลำ
อย่างไรก็ตาม ชุดดับเพลิงได้เริ่มจากการฉีดน้ำสกัดจากด้านล่างของเรือ เมื่อเพลิงเริ่มสงบลงจึงได้ขึ้นไปฉีดน้ำภายในตัวเรือ โดยใช้เวลากว่า 1.30 น. ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงได้
นายยศณัฎฐ์ ส่งเกียรติวงศ์ เจ้าของคานเรือ กล่าวว่า เรือลำดังกล่าวเป็นของบริษัทแห่งหนึ่ง นำขึ้นคานเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรับการซ่อมแซมภายนอกและภายในตัวเรือ และมีกำหนดจะลงจากคานในวันที่ 9 ส.ค.นี้ เรือลำนี้มีความยาวประมาณ 20 เมตร กว้าง 6 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 125 คน และลูกเรือ 6 คน
ช่วงบ่ายของวันเกิดเหตุได้มีช่างเชื่อมและช่างตัดเหล็กกำลังซ่อมแซ่มอยู่รอบตัวเรือทั้งภายในและภายนอก ขณะที่ตนกำลังเตรียมลากเรืออีกลำลงจากคานก็ได้เห็นไฟกำลังลุกไหม้จากด้านหน้าตัวเรืออย่างรวดเร็ว ตนจึงได้ได้ตะโกนให้คนที่อยู่ในเรือนำถังดับเพลิงฉีดสกัดแต่เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงไม่สามารถดับได้จึงได้โทรศัพท์แจ้ง 199 มาช่วยดับไฟในที่สุด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ภายในเรือถูกวอดเผาวอดทั้งลำมูลค่าความเสียหายประมาณ 4-5 ล้านบาท และเรือข้างเคียงถูกเพลิงเผาได้รับความเสียหายเล็กน้อย
สำหรับสาเหตุที่แท้จริงของเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ร.ต.อ.รณภูมิ กล่าวว่า ต้องรอรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานที่ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานต่าง ๆ เสียก่อน รวมทั้งทำการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่อไป
