ปีนี้ใช้ขบวนรถยนต์แทนการเดิน ขบวนพระเคลื่อนไปตาม ถนนวิชิตสงคราม ผ่านสนามสุระกุล สามแยกหน้าโรงเรียนภูเก็ตไทยหัวอาเซียนวิทยา เข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งตลอดสองข้างทางมีประชาชนตั้งโต๊ะรับพระ และมีประชาชนชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวชาวไทยออกมาร่วมชมขบวนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณถนนย่านเมืองเก่า เช่น ถ.พังงา ถ.ถลาง หน้าลานนวมินทร์ วงเวียนสุรินทร์ไปจนถึงสวนสาธารณสะพานหิน ตรงไปประกอบพิธีกรรมลานต้นสนหน้าสระน้ำสะพานหิน เสียงประทัดดังตลอดเส้นทาง
ในขบวนมีม้าทรงทั้งชายและหญิงได้งดเว้นการใช้อาวุธทิ่มแทงทรมานร่างกาย มีเพียงธงประจำตัวม้าทรง หรือ ออเหล่งกี่ และแซ่หางม้า เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 ตามมาตรการของจังหวัด สำหรับศาลเจ้ากะทู้ หรือ อ๊าม เป็นศาลเจ้าที่สำคัญและถือเป็นศาลเจ้าต้นกำเนิดของประเพณีถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต (กินเจ) โดยเริ่มประเพณีเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2368 ปัจจุบันมีอายุกว่า 196 ปี และยังคงยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมทุกประการ
และในวันนี้ ทางศาลเจ้ายกเค่เก้ง ซอยพะเนียง ได้ประกอบพิธีแห่พระรอบเมืองเช่นกัน ขบวนเคลื่อนไปยังจุดหมายสวนสาธารณสะพานหิน เพื่อไปประกอบพิธีอัญเชิญควันธูปควันเทียนที่บริเวณปลายแหลมสะพานหินกลับมายังศาลเจ้า
สำหรับวันพรุ่งนี้ 14 ต.ค. 2564 ถือเป็นวันสุดท้ายของประเพณีถือศีลกินผักประจำปี โดยในช่วงเช้าจะมีศาลเจ้าซุ่ยบุ่นต๋อง หล่อโรง (ศาลเจ้าหล่อโรง) ประกอบพิธีแห่พระรอบเมืองเป็นศาลเจ้าสุดท้าย จากนั้นตั้งแต่เวลา 22.00 - 00.00 น. ทุกศาลเจ้าที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักจะประกอบส่งพระ หรือ พิธีส่งองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ (ประธานประเพณีถือศีลกินผัก) และหยกอ๋องซ่งเต่ (เง็กเซียนฮ่องเต้) ที่บริเวณชายหาดหน้าศาลเจ้ากิ้วเทียนเก้ง ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง เพื่อส่งเสด็จกลับสวรรค์ โดยตลอดเส้นทางจะมีการจุดประทัด