นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาประวัติศาสตร์สำหรับประเทศไทย สุชาตา ช่วงศรี หรือ โอปอล ที่ใช้ความสามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์ 2025 กลายเป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่คว้าตำแหน่งมิสเวิลด์อันทรงเกียรตินี้ได้สำเร็จ
นางงามวัย 21 ปีจากภูเก็ต คว้ามงกุฎไปครองได้สำเร็จในการประกวดรอบสุดท้ายที่ศูนย์แสดงสินค้า HITEX ในเมืองไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย เมื่อวันเสาร์ ที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมี คริสตีนา ปิสโควา (Krystyna Pyszková) สาวงามจากสาธารณรัฐเช็กผู้ครองตำแหน่งมิสเวิลด์ 2024 ใช้สองมือยกมงกุฎมิสเวิลด์ขึ้นจากศีรษะตนเองแล้วประคองวางลงบนศีรษะของโอปอล ถือเป็นจุดสุดยอดของงานประกวดนางงามในเวลา 1 เดือน เพื่อเฉลิมฉลองความงามที่เปี่ยมด้วยเป้าหมาย ความเป็นพี่น้องกันทั่วโลก และการบริการสังคม
นอกจากนี้ "โอปอล" ยังคว้ารางวัลมิสเวิลด์ออนไลน์มาครองได้อีกด้วย โดยครองอันดับหนึ่งในตารางคะแนนระดับโลกด้วยยอดชมกว่า 2.3 ล้านครั้ง และทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจแฟน ๆ ไปอย่างไม่ต้องสงสัย
การก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งมิสเวิลด์ของเธอเกิดขึ้นหลังจากที่เธอต้องพบกับความดราม่าในการประกวดนางงามระดับโลกมาตลอดทั้งปี ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเคยคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 3 ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2024 แต่ตำแหน่งดังกล่าวถูกเพิกถอนไปเนื่องจากข้อพิพาทด้านสัญญา
โอปอลเกิดและเติบโตในภูเก็ตเป็นบุตรสาวของ นายธเนศ ดอนกำเนิด และนางสุพัตรา ช่วงศรี ครอบครัวประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวในภูเก็ต เธอจบการศึกษาขั้นต้นที่ภูเก็ต ก่อนจะไปเรียนภาษาจีนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในกรุงเทพฯ เธอเพิ่งสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เส้นทางมิสเวิลด์ของเธอไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยความมั่นใจและความนิยมชมชอบเท่านั้น แต่ยังมีเป้าหมายอีกด้วย โครงการ ’Opal For Her’ ของเธอ ซึ่งมุ่งหวังที่จะสนับสนุนผู้หญิงที่ต่อสู้กับมะเร็งเต้านม ได้รับการยกย่องถึงผลกระทบที่จับต้องได้และการเข้าถึงชุมชนที่แข็งแกร่ง
ระหว่างการรณรงค์ โอปอลยังร่วมมือกับสำนักงานองค์การอนามัยโลกในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการตรวจพบในระยะเริ่มต้นและการเข้าถึงการรักษา
ส่วนหนึ่งในข้อความถึงแฟน ๆ โอปอลได้เขียนว่า “ขอขอบคุณแฟน ๆ และผู้สนับสนุนทุกท่านจากหัวใจของโอปอล สำหรับความรัก กำลังใจ และความสามัคคีของพวกคุณที่ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ โอปอลสัญญาว่าจะเก็บช่วงเวลานี้ไว้ด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวโอปอลเอง แต่เพื่อพวกเราทุกคน”
ในขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีก็ได้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของไทยหลายคนที่แสดงความยินดีกับโอปอลต่อหน้าสาธารณชน โดยกล่าวว่าชัยชนะของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยและเป็นแหล่งความภาคภูมิใจของชาติ การสวมมงกุฎของโอปอลยังถือเป็นบทใหม่ของการประกวดมิสเวิลด์ในประเทศไทย ซึ่งเคยใฝ่ฝันมานานถึงผู้ชนะแม้ว่าจะมีผลงานดีเด่นมาหลายทศวรรษ ชัยชนะของเธอทำให้ทั่วโลกจับตามองภูเก็ต ไม่เพียงแค่ในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นบ้านเกิดของมิสเวิลด์อีกด้วย
นายกฯ ชื่นชม “น้องโอปอล” ที่มีความพยายามร่วมกิจกรรมแคมเปญในแต่ละรอบ ร่วมกับเพื่อนนางงาม 118 ประเทศทั่วโลก ระยะเวลากว่า 1 เดือน ซึ่งการได้มงกุฎนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่วันนี้น้องสามารถทำได้ จากความพยายาม ความตั้งใจ และความจริงใจ ที่สามารถสื่อไปถึงกรรมการ และคนทั่วโลก
ทั้งนี้ น้องโอปอล สุชาตา เคยเข้าพบ นายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว หลังได้รับรางวัลรองอันดับ 3 ในการประกวด Miss Universe 2024 ครั้งที่ 73 ที่ประเทศเม็กซิโก ครั้งนั้น นายกฯ ชื่นชมว่า น้องโอปอลเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และพลังบวก จึงทำให้ได้รับความสำเร็จในการประกวด คาดว่า ครั้งนี้จะมีการเปิดทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” อีกครั้งในฐานะ Miss World 2025 คนแรกของประเทศไทย
