ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นางสาววิภาฯ อายุ 36 ปี กระทำความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกง, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งบิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น" สถานที่จับกุม บริเวณบ้านหลังหนึ่งใน ซ.สามัคคี 2 ถ.วิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายถูกกลุ่มคนร้ายชักชวนผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย หลอกให้ลงทุนซื้อขายหุ้น, เหรียญเงินตราต่างประเทศ ผ่านบนแอปพลิเคชันปลอมที่มีการสร้างขึ้นมา โดยผู้ต้องหาแอบอ้างว่ามีผลกำไรดีมูลค่าสูง
เมื่อผู้เสียหายตกหลุมพรางร่วมลงทุน ผู้ต้องหาได้มีการให้โอนไปยังบัญชีของ น.ส.วิภาฯ แต่สุดท้ายเมื่อผู้เสียหายร่วมลงทุน กลับไม่สามารถนำเงินออกมาได้ตามที่กล่าวอ้าง มูลค่าความเสียหายกว่า 36 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่การออกหมายจับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นางสาววิภาฯ อาศัยอยู่แถวบริเวณสถานที่จับกุม จึงไปตรวจสอบ พบ น.ส.วิภาฯ อยู่บริเวณสถานที่จับกุมจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ พร้อมข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ จากนั้นจึงได้จับกุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผลปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. และ พ.ต.อ.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ ผกก.7 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.จตุพร ติกแก้ว สว.ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล.
