สืบเนื่องจาก มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.3 บก.ปอศ. ว่าได้ถูกกลุ่มคนร้ายชักชวนผ่านเพจเฟซบุ๊กหลอกให้ลงทุนหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศ โดยมีการแอบอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการหุ้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนชักชวนเข้าร่วมกลุ่มไลน์ VIP แนะนำการลงทุนในหุ้นต่างประเทศซึ่งมีความแม่นยำและน่าเชื่อถือสูง และมีข้อมูลลับที่ใช้ในการลงทุน โดยให้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน (ซึ่งเป็นแอปปลอม) โดยช่วงแรกสามารถทำกำไรได้จริงและสามารถถอนเงินได้บางส่วน เพื่อตั้งใจให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินลงทุนเพิ่มอีกหลายครั้ง แต่เมื่อลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 50 ราย รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 800 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันสืบสวนกระทั่งทราบข้อมูลและกระบวนการหลอกลงทุนดังกล่าว ว่ามีผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจำนวนหลายรายและมีพื้นที่ ที่ใช้ในการกระทำความผิดหลายพื้นที่ ทั้งในและต่างประเทศ พบว่ามีนายทุนเป็นชาวต่างชาติ สัญชาติมาเลเซีย เชื้อสายจีนจำนวนหลายราย ในเบื้องต้นพบยอดเงินหมุนเวียนในกลุ่มคนร้ายกว่า 5,000 ล้านบาท
พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมขอศาลอาญาฯออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 50 กว่าราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า นายณัฐเดชฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้น ได้พักอาศัยอยู่บริเวณสถานที่จับกุม จึงได้ไปทำการตรวจสอบพบนายณัฐเดชฯ อยู่บริเวณสถานที่จับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ และทำการจับกุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ ผกก.7 บก.ทล. สั่งการให้ พ.ต.ท.จตุพร ติกแก้ว สว.ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. ดำเนินการ
- ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)