กรมการปกครองบุกจับ 2 ผับใหญ่ใจกลางกะทู้ เตรียมชงผู้ว่าฯ สั่งปิด 5 ปี

ภูเก็ต - ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกจับ 2 ผับใหญ่ใจกลางอำเภอกะทู้ ภูเก็ต นอกเขตโซนนิ่ง ไร้ใบอนุญาต ปล่อยเด็กเข้าใช้บริการ เปิดยัน 6 โมงเช้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแจ้ง 5 ข้อหากับเจ้าของร้าน เตรียมชง ผู้ว่าฯ สั่งปิด 5 ปี

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 1 มิถุนายน 2566, เวลา 11:47 น.

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 1 มิ.ย. 66 เจ้าพนักงานชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วย พนักงานฝ่ายปกครองส่วนกลาง และกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน บุกเข้าจับกุมสถานบริการชื่อดัง 2 แห่ง กลางเมืองกะทู้  ชื่อสถานบริการ “ราตรี คลับ” และ “มหานครภูเก็ต” ตั้งอยู่ริมถนนตรงแยกกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต 

ปฏิบัติการจับกุมสถานบริการครั้งนี้สืบเนื่องจาก กรมการปกครองได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต อยู่บ่อยครั้งว่า สถานบริการดังกล่าว เปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยเปิดบริการ ขายเหล้า ขายเบียร์ เล่นดนตรี มีนักเที่ยวหลายร้อยคนดื่มเมากันถึงเวลาเช้า ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านเป็นเหตุให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงนอนไม่หลับได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งสถานบริการทั้ง 2 แห่ง อยู่ตรงข้ามกันโดยมีถนนสายหลักคั่นไว้

กรมการปกครอง จึงได้ส่งพนักงานฝ่ายปกครอง (สายลับ) เข้าไปทำการสืบสวนและแสวงหาพยานหลักฐานด้วยการแฝงตัวเป็นนักเที่ยวเข้าไปใช้บริการสถานบริการดังกล่าว  พบว่า สถานบริการทั้ง 2 แห่ง มีนักเที่ยวชาวไทยจำนวนมากนับร้อยคน มีการเล่นดนตรีสด สลับกับดีเจเปิดเพลง และขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนดทุกคืน โดย “ราตรี คลับ” เปิดทำการถึงเวลาตี 4 ส่วน “มหานครภูเก็ต” เปิดทำการถึงเวลา 6 โมงเช้าทุกวัน  หลังจากที่ “ราตรี คลับ” ปิดทำการแล้ว นักเที่ยวจะเดินข้ามถนนมาเที่ยวต่อที่ “มหานครภูเก็ต” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกัน

ก่อนเข้าจับกุม พนักงานฝ่ายปกครอง (สายลับ) ได้แฝงตัวเป็นนักเที่ยวเข้าทำการสืบสวน เมื่อเวลา 02.30 น. ซึ่งเลยเวลาเปิดทำการแล้ว ก็พบว่าสถานบริการ “ราตรี คลับ” และ “มหานครภูเก็ต” ยังคงไม่มีทีท่าที่จะเช็คบิลปิดทำการแต่อย่างใด ดีเจยังเปิดเพลงและนักเที่ยวกำลังเต้นกันอยู่อย่างสนุกสนานตามจังหวะของเสียงดนตรีที่เร้าใจ นอกจากนี้ยังพบว่า สถานบริการทั้ง 2 แห่ง ยังคงจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปกติ แม้ว่าจะเลยเวลาจำหน่ายตามกฎหมายไปแล้วก็ตาม สายลับจึงให้สัญญาณแก่ชุดจับกุมเข้าดำเนินการตรวจสอบจับกุม พร้อมกันทั้งสองร้านทันที

 เมื่อกำลังของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางมาถึงสถานบริการทั้ง 2 แห่ง พบว่า สถานบริการ “ราตรี คลับ” และ “มหานครภูเก็ต” ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีนักเที่ยว จำนวนกว่าร้อยคน กำลังดื่มกินอยู่ภายใน ทันทีที่นักเที่ยวรู้ว่าถูกเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อม ภายในผับเกิดโกลาหลเล็กน้อย หลายคนพยายามจะหลบหนีทางบันไดหนีไฟด้านหลังร้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังปิดประตูทางเข้าออกไว้ทุกด้าน เจ้าหน้าที่สั่งให้เปิดไฟแสงสว่าง ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ใช้เวลากว่า 15 นาที จึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถานบริการทั้ง 2 แห่งนี้ พบว่า เป็นสถานบริการที่ไม่มีใบอนุญาต และยังตั้งอยู่นอกโซนนิ่ง และยังปล่อยให้เยาวชนเข้าใช้บริการอีกด้วย โดยพบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 10 คน ซึ่งเป็นเด็กอายุ ระหว่าง 17 - 19 ปี 

พนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้านและร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีในฐานความผิด ดังนี้

ร้าน “มหานครภูเก็ต”

     (1) เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 

     (2) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย

     (3) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

     (4) จำหน่ายสุราแก่เด็ก

     (5) ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร

ร้าน “ราตรี คลับ”

Berda Claude International School of Phuket (BCIS)

     (1) เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 

     (2) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย

จากนี้ พนักงานฝ่ายปกครองจะเสนอเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ ตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง เปิดเผยว่า กรมการปกครอง ได้ดำเนินการกวดขัน จับกุม ปราบปราม สถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด จึงขอฝากถึงผู้ประกอบการสถานบริการทั่วประเทศว่า ขอให้ท่านมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ โดยประกอบธุรกิจให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 และคำสั่ง คสช.ที่ 46/2559 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ กระทําการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้

   (1) ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการ 

   (2) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 

   (3) เปิดทําการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ 

   (4) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากําหนดเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ 

   (5) ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไปในสถานที่ของตน 

   (6) ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทําความผิดฐานค้ามนุษย์ ในสถานที่ของตน 

   (7) ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นการพนันในสถานที่ของตน

   (8) มีที่ตั้งบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือหอพักในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา 



 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่