เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 67 พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และ ผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 พร้อมด้วย พลเรือตรี ภุชงค์ รอดนิกร รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 /รองผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 และ ผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยฝ่ายอำนวยการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมบำรุงขวัญและให้กำลังใจ นายศรีเพ็ชร บุตรทัศน์ อายุ 44 ปี ไต้ก๋งเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกเรือรบของประเทศเพื่อนบ้านยิง บริเวณทิศตะวันตกของเกาะพยาม จว.ระนอง
ขณะทำการประมงพร้อมกับกลุ่มเรือประมงในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว และได้เยี่ยมปลอบขวัญ พูดคุยพร้อมทั้งให้กำลังใจ นาง ปริญภมร ธัญชร อายุ 57 ปี ภรรยาไต้ก๋งเรือ ส.เจริญชัย ที่ถูกเรือรบของประเทศเพื่อนบ้านจับกุมไป พร้อมลูกเรือจำนวน 31 คน (สัญชาติไทย 4 คน สัญชาติเมียนมา 27 คน) ณ บริเวณท่าเรือแพปลา ช.โชคบุญชู (คุระบุรี) ตำบล คุระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา โดย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้กล่าว "ให้ความมั่นใจ ในการเร่งรัดในการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการนำคนไทยที่ถูกจับกุม กลับมาประเทศไทยอย่างปลอดภัยทุกคนในโอกาสแรก และขอให้พี่น้องชาวประมงมั่นใจในการปฏิบัติงานของกองทัพเรือและศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในการรักษาอธิปไตยของชาติทางทะเล ฝั่งอันดามัน"
ต่อจากนั้น ได้เดินทางเยี่ยมให้กำลังใจ ครอบครัวนายวรากร จูศิริพงษ์กุล อายุ 24 ปี ลูกเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ซึ่งเสียชีวิตจากการจมน้ำ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ณ บ้านเลขที่ 5/1 บ้านน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
การนี้ ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้เพิ่มเติมกำลัง โดยจัดเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง (ต.993) และ ร.ล.ล่องลม ออกเรือเพื่อควบคุมสถานการณ์ รวมทั้งแสดงกำลังและสั่งการให้ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประชาสัมพันธ์ จังหวัดระนอง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดระนอง ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือ จังหวัดระนอง สมาคมประมง จังหวัดระนอง รวมถึงเครือข่ายประมง ประชาสัมพันธ์ให้เรือประมงไทย ทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย โดยไม่เข้าไปทำการประมงในพื้นที่ที่ไม่มั่นใจ เพื่อป้องกันการเข้าถูกจับกุม
สำหรับเหตุการณ์เรือประมงไทยถูกเรือรบของประเทศเมียนมายิง ที่บริเวณทิศตะวันตกของเกาะพยามนั้น เมื่อ วันที่ 30 พ.ย.67 เวลา 00.45 น. ได้รับแจ้งข่าวจากเรือประมง ชื่อเรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 ซึ่งอยู่ แลต 09 องศา 45.812 ลิปดา เหนือ ลอง. 098 องศา 12.468 ลิปดา ตะวันออก พื้นที่ทับซ้อนไทยเมียนมาขณะทำการหาปลากับกลุ่มเรือประมงในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ได้ร้องขอความช่วยเหลือเนื่องจากถูกเรือรบเมียนมาทำการใช้อาวุธ โดยตัวเรือได้รับความเสียหายน้ำเข้าเรือปริมาณมาก และมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 คน
และเรือรบเมียนมาได้เข้าจับกุมเรือประมงไทยจำนวน 2 ลำ คือ เรือ ส เจริญชัย 8 โดยมีลูกเรือจำนวน 31 คน โดยถูกจับกุมไปยังเกาะย่านเชือกประเทศเมียนมา
การนี้ พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผบ.ทรภ.3 และ ผอ.ศรชล.ภาค 3 ได้สั่งการให้ เรือ ต.274 ออกเรือด่วนเร่งเข้าสกัดขัดขวางการกระทำของเรือรบเมียนมา และการช่วยเหลือเรือที่ประมงที่ได้รับความเสียหายรวมถึงช่วยชีวิตลูกเรือที่ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งได้สั่งการ ให้ ผอ.ศปชล.ทม. ติดต่อประสาน ผบ.สน.เรือ 58 เกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา เพื่อให้การช่วยเหลือ เรือ ส เจริญชัย 8 ที่ถูกจับกุม จากการประสาน ทราบว่า ได้ดำเนินการจับกุมเรือประมงไทยจริง เนื่องจากมีกลุ่มเรือประมงไทย เข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำลึกเข้าไปในเขตประเทศเมียนมา ประมาณ 4 – 5.7 ไมล์ และผลจากการประสาน ได้รับแจ้งจาก ผบ.สน.เรือ 58 เกาะย่านเชือกฯ ว่าจะส่งมอบเรือประมงและลูกเรือ ที่ถูกจับกุมไปยังสถานีประมงเกาะสอง ในอีกประมาณ 2 วันข้างหน้า
สรุปผลการเข้าให้การช่วยเหลือ เรือ ดวงทวีผล 333 (เรือในกลุ่มเรือประมงในที่เกิดเหตุ) โดยเรือ ต.274 เข้าทำการค้นหาและช่วยเหลือลูกเรือได้ครบทั้งหมด โดยเสียชีวิต 1 ราย คาดว่าเกิดจากการสำลักน้ำขณะโดดน้ำหนี ทั้งนี้ เรือ ต.274 ได้นำลูกเรือประมง ชื่อเรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 จำนวน 2 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บมาส่งท่าเทียบเรือน้ำลึก จว.ระนอง นำส่งผู้บาดเจ็บให้กับ รพ.ระนอง เพื่อทำการรักษาต่อ
โดย ศปชล.ทม. ได้ส่งกำลังพลเข้าไปร่วมสังเกตุการณ์และช่วยเหลือในการนำส่ง ผู้บาดเจ็บจำนวน 2 คน ประกอบด้วย นาย ศรีเพ็ชร บุตรทัด อายุ 44 ปี ทำหน้าที่ ไต๋เรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และลูกเรือชาวเมียนมาไม่ทราบชื่อ ได้รับบาดเจ็บจากการ ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย หลังจากนั้นได้สั่งการให้ เรือ ต.274 กลับเข้าพื้นที่ พร้อมกับสั่งการให้ เรือ ต.993 เพิ่มเติมกำลัง ลาดตระเวนในพื้นที่ต่อไป