จากกรณีตรวจพบกากแคดเมียมกว่า 150 ตัน ที่โรงงานในซอยเรียงปรีชา ถ.ประชาราษฏร์ เขตบางซื่อ กานต์ ภัสริน รามวงศ์ - Patsarin Ramwong สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ก.เนอส ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย เขตบางซื่อ ส.ก.บางซื่อ ได้ลงพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามกระบวนการตรวจสอบและอายัดในครั้งนี้
ทั้งภัสรินและภัทราภรณ์ ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบกรณีดังกล่าว ไม่พบการหลอมแคดเมียมและไม่พบการแพร่กระจายหรือการปนเปื้อนออกภายนอกบริเวณโรงงาน โดยเบื้องต้นพบว่าเป็นส่วนหนึ่งของกากแคดเมียมชุดเดียวกับที่ตรวจพบที่ จ.สมุทรสาคร และที่ จ.ชลบุรี
ภัสรินระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่น่ากังวล แม้เจ้าหน้าที่จะรายงานว่ากากแคดเมียมไม่ได้กระจายหรือฟุ้งไปในอากาศ แต่เพื่อความปลอดภัยตนก็ขอสื่อสารให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงป้องกันตนเองไว้ก่อน ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่เขตบางซื่อจะมีการตรวจสุขภาพประชาชนในระยะ 500 เมตรต่อไป
ภัสรินยังกล่าวด้วยว่าจากกรณีดังกล่าวนี้ ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่ประเทศไทยควรจะมีกฎหมาย PRTR (กฎหมายรายงานการปลดปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม) ที่พรรคก้าวไกลเคยเสนอมาตั้งแต่สภาฯ สมัยที่แล้วได้แล้ว แต่เนื่องจากตอนนั้นกฎหมายถูกจัดเป็นร่างการเงิน ต้องได้รับคำรับรองจากนายกฯ ก่อนเข้าสภาฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในขณะนั้นจึงใช้ดุลพินิจปัดตก สภาฯ ไม่มีแม้แต่โอกาสได้พิจารณา
กรณีกากแคดเมียมที่เกิดขึ้น รวมถึงกรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ที่สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตประชาชน เช่น โรงงานและโกดังพลุระเบิด คือผลโดยตรงจากการไม่มีกฎหมายใดในประเทศไทยบังคับใช้ให้ผู้ประกอบการต้องแจ้งประเภทและปริมาณของสารพิษที่อยู่ในครอบครองหรือมีการเคลื่อนย้ายโดยผู้ประกอบการอุตสาหกรรม
ในสภาฯ ชุดนี้ พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าไปอีกครั้งตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว อยู่ในขั้นตอนรอบรรจุวาระ ซึ่งภัสรินหวังว่าเมื่อสภาฯ เปิดประชุม และกฎหมายเข้าสู่การพิจารณา จะได้รับการสนับสนุนจาก สส. ทุกพรรคการเมือง เพื่อรับรองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลและมีส่วนร่วมในการคุ้มครอง ส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถอดบทเรียนไม่รู้จบ แต่ไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริง