ทั้งนี้ศพของผู้เสียชีวิตได้ทำการฌาปนกิจไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) โดยก่อนหน้าที่นายชูเกียรติ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวในชื่อ “ตาล โปรเมดิกส์” ว่า “ตลอดชีวิตในวงการสาธารณะกุศล 20 ปี ผมเพิ่งมาเจอเคสนี้แหละ ที่ผ่านมาก็แค่เสียงก๊อกแก๊ก กับคนอื่นเห็นทั้งนั้น รอบนี้อาสาฯโดนเอง”
จากเหตุการณ์อาคารถล่มที่ ม.1 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสรวม 9 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 7 คน รอดตาย 2 คน สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากเสาไม่สามารถรับน้ำหนักได้ และอาคารดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้าง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
นายชูเกียรติ กล่าวว่า “ที่เดินทางมาวันนี้ได้เดินทางมาที่วัดดังกล่าวด้วยฉุกเฉินรถ ฮธ-8075 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถที่ลำเลียงศพนาย นาย โม วิน ชาวพม่า ซึ่งช่วยเหลือออกมาจากซากตึก มาเก็บไว้ที่ห้องเก็บศพโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หลังจากที่บรรทุกศพดังกล่าวมา ทำให้เกิดเหตุการณ์สยองเชิงขนหัวลุกอยู่บ่อยครั้ง จึงต้องการจะเดินทางมาจุดธูปบอกกล่าว พร้อมนายสุนันท์ ผู้นำศพมาเก็บไว้ในวันเกิดเหตุ แต่ทราบว่าศพดังกล่าวเผาไปเมื่อวานนี้แล้ว”
หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิกุศศลธรรม จุดเทพกระษัตรี เล่าถึงประสบการณ์ขนหัวลุกเกี่ยวการขนศพผู้ประสบภัยอาคารถล่มว่า วันเกิดเหตุนายสุนันท์ "คุณหนุ่ม" บุนนาค อาสามูลนิธิกุศลธรมภูเก็ต ได้นำรถยนต์ตู้ของตนไปช่วยเหลือที่เกิดเหตุ และขณะที่นำร่างผู้เสียชีวิตศพที่ 5 ลำเลียงมาเก็บไว้ที่ห้องเก็บศพ รพ.วชิระภูเก็ต มีนายสุนันท์ พร้อมอาสามูลนิธิฯ ได้นำศพมาที่ห้องเก็บศพ ก่อนจะกลับไปอาบน้ำเพื่อเข้าเวรต่อ
“จากนั้นประมาณ 3 ทุ่มกว่าทางศูนย์กุศลธรรมฯ ได้แจ้งมาว่ามีอุบัติเหตุที่ถนนเยาวราช หน้าตลาดสดชิล์ลวา จึงได้นำรถออกตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมน้องอาสาฯผู้หญิงอีก 2 คน ครั้นเปิดประตูขึ้นไปเพื่อออกช่วยเหลือ น้องผู้หญิงอาสามองเห็นร่างดำ ๆ เป็นผู้ชาย นั่งจับท้องอยู่ที่บริเวณเบาะหลัง ข้างเตียงผู้ป่วยในรถ แต่น้องไม่พูดอะไร หลังจากที่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุก็ได้มาถามว่าใครเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวบ้าง ซึ่งน้องคนที่เห็นไม่ได้ไปช่วยเหลือในจุดที่อาคารถล่ม” นายชูเกียรติ เล่าเรื่อง
“จากนั้นจึงได้โทรถามพี่หนุ่มที่ขับรถไปส่งศพที่ห้องเก็บศพว่า หลังจากที่นำศพลงได้บอกอะไร หรือได้เชิญวิญญาณของผู้ตายลงด้วยหรือไม่ ซึ่งคุณสุนันท์บอกว่า บอกแค่ว่าถึงโรงพยาบาลแล้วนะ ไม่ได้บอกวิญญาณให้ลงด้วย”
ประกอบกับเวลาเดียวกันน้องคนหนึ่งได้ไปกินกับเพื่อน ๆ รวม 3 คน ที่ย่านถนนศักดิเดช ต.วิชิต แต่พนักงานเสิร์ฟได้เอาช้อน จาน แก้ว จำนวน 4 ชุด มาวางให้ ทุกคนก็งง ว่ามา 3 คน ทำไมเอามา 4 ชุด เมื่อสั่งอาหารเสร็จก็ตักข้าวคำแรกกินตามปกติ เมื่อน้องเขาตักคำที่สอง กำลังจะเอาอาหารเข้าปาก ก็เหมือนมีใครมาตบที่มือจนช้อนตก ทุกคนมองหน้ากัน จากนั้นน้องคนดังกล่าวก็ได้ตักอาคารใส่จานเปล่าที่วางอยู่ 1 จาน และเชิญวิญญาณมากินและทุกคนก็กินต่อจนเสร็จ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้เรียกทีมช่วยเหลือที่ไปช่วยเหลือ ณ อาคารถล่มทั้งหมดมาประชุม ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางไปห้องดับจิต เพื่อไปเชิญวิญญาณลง โดยให้คุณสุนันท์ คนที่บรรทุกศพ มาจุดธูป ขอเชิญวิญญาณลงจากรถ ทั้งหมดก็แยกย้ายกันทำหน้าที่ตามปกติ
นายชูเกียรติ กล่าวอีกว่า เรื่องเหมือนจะจบ แต่มีน้องอาสาอีกคนหนึ่ง นอนอยู่ที่เบาะหลังรถ ก็มีชายคนหนึ่งมาปลุกว่าตื่นๆๆๆๆ แล้วหัวเราะที่หูน้องหลายรอบ น้องตกใจตื่น ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านไป จากนั้นในช่วงเช้าน้องได้มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
“เรื่องทั้งหมดเป็นความเชื่อส่วนบุคคลในกลุ่มของอาสาฯ ส่วนตัวทำงานอาสามากว่า 20 ปี ไม่เจอกับตัวเอง เมื่อมาเจอกับตัวเอง มาเจอกับลูกข่ายตัวเอง ก็อธิบายไม่ได้ ซึ่งน้อง ๆ อาสาหลายคน รวมทั้งชาวบ้านได้ เอาเลขหมายเลขรถของตนไปซื้อล็อตเตอร์รี่อีกด้วย”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าขณะนี้ เลขดังเกี่ยวกับเลขอาคารถล่มทั้งเลข 972 และเลข 21 ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุ ขายหมดเกลี้ยงแผงล็อตเตอร์รี่แล้ว
