จราจรเมืองภูเก็ตแจงใช้เทคโนโลยีควบคุมความเร็ว เพื่อลดอุบัติเหตุบนถนนบายพาส

ภูเก็ต – เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เปิดเผยถึงการใช้เทคโนโลยีควบคุมความเร็ว เพื่อลดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บและการเสียชีวิต บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หรือถนนบายพาส ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ขอให้ผู้ขับขี่ทุกท่านโปรดปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 20 มกราคม 2564, เวลา 17:13 น.

จากกรณีผู้ใช้โซเชียลได้มีการแชร์ภาพใบสั่งจับความเร็วเกิน 50 กม./ชม. พร้อมระบุว่า หากใช้ความเร็วเกินกว่า 50 กม./ชม. จะโดนทุกคัน ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงตามกฎหมายแล้วถนนเส้นดังกล่าวมีป้ายจำกัดความเร็วที่ 50 กม./ชม. ติดตั้งอยู่แล้วเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พร้อมทั้งยืนยันว่า ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่โดนใบสั่งใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดนั้นใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.ทั้งสิ้น

วันนี้ (20 ม.ค.) พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ว่า ตามที่มีประชาชนนำใบสั่งของเจ้าพนักงานจราจร สภ.เมืองภูเก็ต ไปลงโพสในโซเชียลจนเกิดข้อถูกเถียงกันเป็นวงกว้าง ในฐานะรองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองภูเก็ต จึงขอชี้แจงต่อสื่อว่าถนนเส้นนี้เป็นถนนเลี่ยงเมือง เริ่มต้นที่สามแยกทางลอดบางคูไปจนถึงห้าแยกฉลอง ซึ่งมีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อระบายรถที่แออัดในช่วงเร่งด่วน โดยผู้ใช้รถใช้ถนนไม่จำเป็นต้องเข้าไปแออัดกันอยู่ในตัวเมืองในเวลาดังกล่าว สามารถใช้ถนนเส้นนี้เลี่ยงเมืองออกไปฉลองหรือป่าตองได้อย่างสะดวก

พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อขับมาถึงถนนเส้นนี้ด้านซ้ายมือจะเห็นป้ายสัญญาณจราจรปักเตือนกำหนดความเร็วที่ 50 กม./ชม. โดยป้ายจราจรนี้ติดตั้งมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งเป็นไปตามมติเห็นชอบของที่ประชุมคณะกรรมการด้านความปลอดภัยทางถนนของจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุที่พบว่า มีการเกิดอยู่บ่อยครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา

“สืบเนื่องจากถนนบายพาสเป็นอีกเส้นหนึ่งในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ที่มีตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุสูงมาหลายปีแล้ว ทุกปีจะมีผู้เสียชีวิต หากท่านใดทำงานเกี่ยวกับสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน หรือการรักษษพยาบาลต่าง ๆ จะทราบว่า ถนนเส้นนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมาก มีทั้งอุบัติเหตุใหญ่ที่มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงอุบัติเหตุรายย่อยต่าง ๆ” พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ กล่าว

จากเดิมที่มีการเกิดอุบัติเหตุมากเป็นอันดับต้น ๆ ของภาคใต้และของประเทศ ทางจังหวัดจึงได้พยายามแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุและจราจรในแต่ละจุด ซึ่งถนนบายพาสเป็นถนนอีกเส้นหนึ่งต้องการแก้ปัญหา มีการจัดปรับปรุงด้านกายภาพทางวิศวกรรมการจราจร จะเห็นว่ามีการตั้งแบริเออร์ ตั้งกรวยล้มลุก หรือมีการแก้ไขปัญหาจตามจุดต่าง ๆ และส่วนหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนถนนบายพาส จากการวิเคราะห์การเกิดอุบัติเหตุที่ผ่านมาตลอดหลายปี พบว่าปัญหาหลักเลยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้นเกิดจากการ “รถขับเร็ว”

“เนื่องจากถนนที่ค่อนข้างจะตรงและมีหลายช่องจราจร ดังนั้นทางภาครัฐและคณะกรรมการประจำจังหวัดจึงได้มีมติกำหนดให้ถนนเส้นนี้เป็นถนนจำกัดความเร็ว ตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเข้ามารับหน้าที่ มีการติดป้ายกำหนดความเร็ว ป้ายตรวจจับความเร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยให้งบติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วประจำที่เป็นกล้องใหญ่ แต่พอใช้งานมาระยะหนึ่ง กล้องเกิดเสื่อมสภาพไม่สามารถใช้ในการบังคับใช้กฎหมายได้ หลังจากนั้นเท่าที่ทราบทางตำรวจก็ได้ใช้วิธีเปิดไปกระพริบ/วาบ ให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังมาตลอด แต่ก็ยังพบว่ามีอุบัตติตุเกิดขึ้นอยู่ดี เช่นช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ที่ผ่านมา ก็มีอุบัติเหตุใหญ่ชนซ้อนกันหลายคันเกิดขึ้นที่หน้าเอาท์เล็ต”

นอกจากนี้ ในปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองภูเก็ต ได้มีการลดการตั้งจุดตรวจจับความเร็วโดยใช้เทคโนโลยีกล้องตรวจจับความเร็วแบบเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“ในยุคนี้ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงต้องการที่จะตำรวจจราจรปรับปรุงแนวทาง การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามา เพื่อปรับพฤติกรรมของผู้ขับขี่มากกว่าที่จะไปตั้งจุดตรวจ/ด่าน โดยให้ลด/เลิกการตั้งด่าน และใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทน”

“ทางตำรวจจราจรจังหวัดภูเก็ต เพิ่งได้รับการอบรมในการใช้กล้องจับความเร็วเคลื่อนที่เมื่อกลางปีที่แล้ว มีอุปกรณ์พร้อม ถ้าท่านสังเกตทุกวันนี้ตำรวจจราจรแทบจะไม่มีการตั้งจุดตรวจเลย ยกเว้นช่วงที่สำคัญเช่นปีใหม่ สงกรานต์ นอกนั้นจะใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็คือการตรวจจับความเร็วด้วยเครื่องที่ปรากฎ”

“เมื่อเราต้องการลดอุบัติเหตุบนถนบายพาส ซึ่งเป็นเส้นที่มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เราก็จะใช้หลักการว่ากฎหมายกำหนดไว้ว่าอย่างไร ซึ่งตามกฎหมายกำหนดไว้ว่าถ้าเป็นถนนในเขตเทศบาล ซึ่งบายพาสส่วนใหญ่อยู่ในเขตเทศบาลตำบลรัษฎา คือรถยนต์และรถจักรยานยนต์ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 80 กม./ชม. ส่วนรถพ่วงรถบรรทุกก็ใช้ความเร็วลดหลั่นกันไปตามกฎหมาย แต่เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุ และติดตั้งป้ายห้ามใช้ความเร็วเกิน 50 กม./ชม.ชัดเจน รวมถึงป้ายสิ้นสุดการบังคับใช้ความเร็ว”

“และเมื่อนำเทคโนโยลีตรงนี้มาใช้เราต้องยึดตามหลักที่กำหนด ถึงแม้ว่าจะเป็นถนนในเขตเทศบาล แต่มีป้ายกำหนดความเร็วเราก็ต้องปฏิบัติตาม เมื่อมีการกระทำความผิดเราก็ต้องออกเอกสารไปยังผู้ขับขี่ อย่างไรก็ตาม ในการตรวจจับความเร็วเรามีการเผื่อความคลาดเคลื่อนอยู่แล้ว และส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกจับบนถนนบายพาสใช้ความเร็วเกิน 100 ทั้งนั้น”

รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากเส้นบายพาสยังมีเส้นอื่น ๆ ที่มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เช่น บริเวณ เกาะแก้ว และ ถนนเทพกระษัตรี แต่ด้วยข้อจำกัดของกล้องจับความเร็วเคลื่อนที่ที่มีเพียง 2 ตัว จึงต้องมีการกำหนดการใช้ทีละจุด ในบริเวณที่ต้องการลดความเร็ว เพื่อป้องกันอบุติเหตุ ซึ่งในอนาคตอาจมีการปรับใช้ในเส้นทางอื่น ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงการติดตั้งป้ายจราจร ซึ่งในเรื่องนี้ทางตำรวจจะนำไปปรึกษากับแขวงทางหลวงภูเก็ตต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่