ภายหลังได้รับแจ้งจากไต๋เรือประมง เรือประมงพรประเสริฐ 111 ว่า พบศพลอยคว่ำอยู่ในทะเลทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะราชา ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต (อ่านเพิ่มเติม คลิก) โดยมีน.อ.นพดล บุญเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งกำลังบำรุง ทัพเรือภาคที่ 3 และญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตมารอรับ
ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าศพดังกล่าว เป็นชาย ไทยสวมเสื้อสีดำ สวมกางเกงผ้าร่มสีดำ ที่คอสวมสร้อยสแตนเลสสีขาว มีกระเป๋าเงินติดตัว 1 ใบ มีบัตรประชาชนระบุชื่อ นายศักดิ์ศรี เนาวไพร* หรือบังชุก อายุ 41 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ชาวประมงบ้านบางคณฑี ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ที่หายตัวไป ขณะออกหาปลาเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับอุบัติเหตุทางทะเลครั้งใหญ่ของภูเก็ตที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 47 คน (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
โดยในวันเกิดเหตุญาติ ๆ ของทั้งสองยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป 3 วัน ญาติทั้งบนเกาะราชาและบนฝั่ง จ.ภูเก็ต ไม่สามารถติดต่อทั้งสองคนได้ จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลราไวย์ นำเรือได้ออกตามหามาตามเกาะแก่งต่าง ๆ บริเวณใกล้เคียงมาต่อเนื่อง (อ่านเพิ่มเติม คลิก)พร้อมทั้งแจ้งทัพเรือภาคที่ 3 ช่วยดำเนินการค้นหาด้วย แต่ก็ไม่พบ กระทั่ง เรือประมงลำดังกล่าวพบร่างของผู้เสียชีวิตลอยคว่ำหน้าอยู่ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบก่อนรับกลับขึ้นฝั่ง เพื่อชันสูตรก่อนส่งมอบญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนอีกคนคือ นายปวิตร สาลี หรือ บังหลี ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม
สำหรับศพของบังชุกทางญาติมีกำหนดรับออกจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตในเช้าวันนี้ และนำไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามโดยทันที
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า รับแจ้งมีผู้สูญหายอีก 1 ราย เมื่อวานนี้เช่นกัน โดยลูกสาวของนายอำนาจ พรมเอี่ยม แจ้งว่าผู้เป็นพ่อได้ออกตกปลาที่ริมโขดหินบริเวณแหลมขวา ใกล้จุดชมวิวกะตะ จ.ภูเก็ต ถูกคลื่นซัดหายไปเมื่อเวลาประมาณ 7 โมงกว่า
ในช่วงเย็นผู้แจ้งได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวขอให้พ่อกลับบ้าน ระบุว่า “พ่อจ๋าเย็นมากแล้วนะ ขึ้นมาได้แล้ว พ่อไม่หนาวหรือ ตัวเล็กล่ะ พ่อไม่มาป้อนกล้วยจับอาบน้ำนอนเหรอ 5 โมงแล้วไม่ไปเดินออกกำลังหายเหรอพ่อ”
*ข่าวเดิมรับรายงานแรกระบุชื่อนายศักดิ์ดา เนาว์ไพร