ตม.สนธิกำลังบุกจับเครือข่ายโรแมนซ์สแกม สารภาพ 6 เดือน กดเงิน 11 ล้านบาท

ภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสนธิกำลังบุกจับ เครือข่ายโรแมนซ์สแกมหรือสื่อรักออนไลน์ ได้ตัวผู้ต้องหาหญิงชาวไทย และชายสัญชาติไนจีเรีย โดยผู้ต้องหารับสารภาพ ทำมาแล้ว 6 เดือน กดเงินสดออกมากว่า 11 ล้านบาท

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 30 กันยายน 2564, เวลา 17:41 น.

ภาพ ตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต

ภาพ ตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต

จากการเปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 64 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรดี รองผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต, พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร รอง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.ภูเก็ต ร่วมกับ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.8 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.8 สภ.เชิงทะเล ร่วมกันจับกุม นายอิควัวโกแลม โจเซฟชิเมเมอริม อายุ 36 ปี สัญชาติไนจีเรีย กระทำความผิดเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และ น.ส.อำภา หรือพิ้งค์ พัดทาป อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.390/2564 ลง 27 ก.ย.2564 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 หลังจากสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับของ สภ.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี อยู่ในห้องเช่าเลขที่ 38/88 ม.4 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น พบนางสาวอำภา ผู้ต้องหาตามหมายจับฯ กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้านพัก กับชายสัญชาติไนจีเรีย ชื่อ นายอิควัวโกแลม

โดยคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากนางสาวอำภาเป็นหนึ่งในขบวนการที่ปลอมเป็นบุคคลอื่น แล้วไปหลอกลวงในเชิงชู้สาว ผ่านการแชทพูดคุย เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ ซึ่งนางสาวอำภาทำหน้าที่เป็นคนถอนเงินจากผู้เสียหายที่โอนมา ก่อนจะโอนเงินส่งต่อไปให้กับผู้ร่วมขบวนการอีกทอดหนึ่ง

นางสาวอำภารับสารภาพว่า ทำมานานกว่า 6 เดือน และได้เงินเป็นเงินค่าจ้างในการรับถอนเงินแต่ละครั้ง จากเครือข่ายที่กรุงเทพฯ จะเป็นคนบอกให้เธอถอนเงินตามคำสั่ง แล้วนำไปโอนเข้าอีกบัญชีเพื่อเป็นการปกปิดเส้นทางการเงิน ซึ่งเธอถอนเงินไปแล้วกว่า 11 ล้านบาท ส่วนชายสัญชาติไนจีเรียที่อาศัยร่วมห้องเดียวกันนั้น ตรวจสอบพบว่าไม่มีเอกสารในการเข้าประเทศ ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และจะตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเครือข่ายโรแมนซ์สแกมด้วยหรือไม่ จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จว.ภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องหลังขบวนการโรแมนซ์สแกม คือ ชาวต่างชาติผิวสี ทำหน้าที่หลอกลวง (Scammer) พูดคุยกับผู้เสียหายหรือเหยื่อ ทางแชทออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก, ไลน์ หรือแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ โดยจะสร้างเฟซบุ๊กปลอม และแสร้งเป็นบุคคลอื่น ส่วนมากจะนำภาพที่เกี่ยวข้องกับทหารอเมริกันทั้งชายและหญิง หรือชาวต่างชาติที่มีลักษณะดี พูดคุยผ่านแชมกับเหยื่อซึ่งเป็นคนไทยให้หลงเชื่อว่าคนเป็นบุคคลนั้น หรือหลอกลวงในลักษณะความสัมพันธ์ชู้สาว จนเหยื่อหลงเชื่อ และแจ้งว่าจะส่งของขวัญเงินสด หรือของมีค่าอย่างอื่นมาให้ทางไปรษณีย์ เพื่อต้องการขอข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของเหยื่อ

เมื่อได้ข้อมูลแล้ว จะส่งต่อไปยังกลุ่มคนร้าย(ส่วนใหญ่เป็นหญิงคนไทย) ใช้โทรศัพท์โทรหลอกลวงเหยื่อ (call center) ว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งสินค้าต่างประเทศ, เจ้าหน้าที่ศุลกากร, เจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ หรือบุคคลอื่นพูดคุย จนเหยื่อหลงเชื่อว่าจะต้องส่งเงินเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนในการรับสิ่งของไปรษณีย์ หรือในบางกรณีหลอกว่าของที่ส่งมาให้เป็นของผิดกฎหมาย เหยื่อเป็นผู้รับอาจจะมีความผิด จึงอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สามารถช่วยเหลือเหยื่อได้โดย

เรียกร้องทรัพย์สินจากเหยื่อเป็นการตอบแทน โดยจะแจ้งหมายเลขบัญชีธนาคารต่างๆให้เหยื่อฝากเงิน หรือโอนเงินเข้าบัญชี โดยจะมีคนร้ายอีกกลุ่มที่ทำหน้าที่ถอนเงินสดออกจากบัญชี นำไปฝากอีกบัญชีหนึ่ง เพื่อเป็นการปกปิดเส้นทางการเงิน

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่