จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต ได้รับ มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายดมิทรี อเลนิคอฟ อายุ 43 ปี สัญชาติรัสเซีย ได้รับบาดเจ็บบริเวณลำตัว และต้นแขนซ้าย นั่งอยู่ภายในรถยนต์ บริเวณหน้าร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง ย่านการค้าโบ๊ทอเวนิว ปากทางเข้าลากูน่าภูเก็ต ต.เชิงทะเล อ.ถลาง สภาพรถมีรูกระสุนปืนยิงเข้ากระจกด้านหน้ารถจำนวน 4 นัด เจ้าหน้าที่กู้ชีพรีบช่วยเหลือนำตัวส่ง รพ.ถลาง และส่งต่อรพ.วชิระภูเก็ตในเวลาต่อมา
จากนั้นทราบว่าคนร้ายก็ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีเทาไม่ติดป้ายทะเบียนหลบหนีไปตามถนนป่าสัก - บ้านดอน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง แล้วไปนำรถคันก่อเหตุไปยังที่หนองน้ำห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 700 เมตร แล้วนำชุดที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งใต้โคนต้นไม้ริมบึงน้ำ ซึ่งจะเห็นรอยรถจักรยานยนต์ในโคลนตมเป็นทางยาว โดยคนร้ายนำทิ้งเสื้อ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ แว่นตากันแดด จากนั้นได้ทิ้งเสื้อกันฝนสีเขียวและหมวกโม่งไปทิ้งโคนต้นไม้ริมบึงน้ำ แล้วคาดว่านำทิ้งอาวุธปืนไปทิ้งในหนองน้ำใกล้กัน เพราะมีรอยรองเท้าติดโคลนตมขึ้นมาจากหนองน้ำ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ประดาน้ำของมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และเจ้าหน้าที่อีโอดีใช้เครื่องตรวจหาโลหะมาตรวจหา และใช้นักประดาน้ำมาช่วยดำน้ำค้นหาที่เบื้องต้นแต่ยังไม่พบ และต้องยกเลิกภารกิจการค้นหา เนื่องจากความมืดเข้ามาเยือน
ในเวลา 16.00 น. (7 มิ.ย.) พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และเดินทางมายังหนองน้ำ ที่ คาดว่าคนร้ายหลังจากก่อเหตุ ได้นำอาวุธปืนมาทิ้ง และตรวจสอบร่องรอยของคนร้ายจากเสื้อคอกลมสีแดง กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว ถุงมือ และแว่นตากันแดด ซึ่งถูกทิ้งไว้ใต้พุ่มไม้ใกล้กับขุมน้ำ โดยยืนยันว่าทางตำรวจจะเร่งติดตามตัวคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีที่อุกฉกรรจ์เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ต่อมาช่วง 17.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่กล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายกลบหนี จนสามารถ พบรถจักรยานยนต์ที่ต้องสงสัยที่คนร้ายใช้ก่อเหตุไปจอดทิ้งไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ภายในซอยป่าสัก 1 ต.เชิงทะเล ห่างจากจุดที่ทิ้งของชุดและอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กด-6621 ภูเก็ต เป็นรถคันที่ใช้ก่อเหตุมีโคลนตมเต็มตามล้อรถและที่พักเท้า มีการนำแผ่นป้ายทะเบียนมาติดไว้หลังก่อเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงได้เก็บหลักฐาน ทั้งเปรียบเทียบโคลนตมจากบริเวณหนองน้ำที่คนร้ายนำของกลางไปทิ้ง และเก็บดีเอ็นเอของคนร้าย
จากการสอบนายดาว คนงานของรีสอร์ททราบว่า รถคันดังกล่าวให้ลูกค้าที่มาพักเช่า รถคันนี้คือ นายอาร์เทอร์ เลเกย์ อายุ 48 ปี สัญชาติคาซัคสถาน มาพักที่รีสอร์ทตั้งแต่ วันที่ 21 พ.ค. โดยจ่ายค่าห้องพักวันละ 1,000 บาท และเช่ารถวันละ 400 บาท แต่เช่าหลายวันจึงลดค่าเช่ารถให้เหลือวันละ 300 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวรายนี้เพิ่งจะจ่ายค่าห้องและค่าเช่ารถครั้งล่าสุดไปเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา และยังค้างอยู่ 2 วัน ซึ่งพนักงานก็สงสัยว่าทำไมลูกค้ารายนี้เข้ามาพัก แต่ไม่มีข้าวของทิ้งไว้ในห้องเลย กระทั่งวันนี้นำรถที่เปื้อนโคลนมาจอดทิ้งไว้แล้วก็หายไป
