โดยคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถานเหตุเกิดที่บ้านของผู้เสียหายสองหลังในหมู่บ้านภายในตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทรัพย์สินถูกประทุษร้ายรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเอเวอร์เรสต์ ทะเบียนภูเก็ต ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 66 เวลาประมาณ 03.00 น. นายอิแรม เอมิตี้ สัญชาติฟินแลนด์ เจ้าของบ้านเกิดเหตุผู้เสียหายเพิ่งเข้านอน แล้วตื่นนอน เวลาประมาณ 07:50 น. พบว่ารถยนต์คันเกิดเหตุ ที่จอดไว้ในโรงจอดรถและกุญแจรถที่ใส่ไว้ในลิ้นชักหายไป โดยก่อนหน้านั้นผู้เสียหายไม่ได้ล็อคประตูบ้าน และได้วางกุญแจรถไว้ภายในลิ้นชักชั้นวางของติดประตูข้างบ้านที่ไม่ใด้ล็อคเช่นกัน เชื่อว่ามีคนร้ายมาลักเอาไป จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ในวันเดียวกันเวลาประมาณ 11.40 น. ให้ติดตามรถและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
ซึ่งหลังจากรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบรุดไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และแจ้งสกัดจับรถคันเกิดเหตุไปยังด่านท่าฉัตรไชย ในขณะเดียวกันก็ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้าน และเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจนสามารถทราบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าเป็นรถต้องสงสัยที่ขับผ่านที่เกิดเหตุ พบว่ามีมารดาของผู้ต้องหานี้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถ
ตรวจสอบข้อมูลของบุคคลใกล้ชิดพบว่าผู้ต้องหานี้เป็นบุตรของเจ้าของรถ ซึ่งมีประวัติการต้องโทษเกี่ยวกับลักทรัพย์รถยนต์ที่ สภ.ฉลอง เมื่อปี 2560 และพ้นโทษจำคุกเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 จึงสันนิษฐานว่าอาจเป็นคนร้าย ในทางการสืบสวนได้ประสานงานกองบังคับการปราบปราม กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อให้สกัดจับรถคันเกิดเหตุไปยังด่านที่เป็นเส้นทางหลัก จนกระทั่งพบรถคันดังกล่าวผ่านด่านสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เวลาประมาณ 20.30 น. ซึ่งผู้ต้องหาทิ้งรถวิ่งหลบหนีไป เจ้าพนักงานตำรวจจึงติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ แล้วยึดรถคันเกิดเหตุไว้ได้ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีกับนายสุวิทย์ หรือแจ็ค จันดาหาร อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาที่ 1080/2566 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 66 เวลา 14.12 น. จำนวนสองคดีคือ ความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป และ บุกรุกในเวลากลางคืน
ส่วนคดีลักทรัพย์ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขาภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 66 พ.ต.ต.ภาณุกร แว่นแก้ว สว. (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร ว่ามีคนร้ายเข้ามาพยายามลักทรัพย์ภายในธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขาภูเก็ตและร้านสยามเบเกอรี่ ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ชุดสืบสวนกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ต รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นธนาคารขนาด 1 คูหาตั้งอยู่ริมถนนดังกล่าวกลางเมืองภูเก็ต โดยคนร้ายได้เปิดหลังคาแล้วใช้เชือกโรยตัวเข้ามา จากนั้นได้งัดลูกบิดประตูเข้าไปภายในห้องเก็บเอกสาร ไม่พบร่องรอยการรื้อค้น
จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีทรัพย์สินอะไรสูญหาย ซึ่งคาดว่าสัญญาณเตือนภัยของธนาคารดังขึ้น ทำให้คนร้ายตกใจกลัวรีบปีนกลับออกไป ต่อมาคนร้ายคนเดียวกันได้เข้าไปงัดร้านสยามเบเกอรี่ที่อยู่ห่างธนาคารประมาณ 10 เมตร และมีวิทยุ 1 เครื่อง และเงินสด 630 บาทหายไป ซึ่งที่ลิ้นชักโต๊ะเก็บของร้านมีร่องรอยการงัด โดยคนร้ายใช้วิธีการเดียวกันกับธนาคาร จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บลายนิ้วมือแฝงตามจุดต่าง ๆ ภายในธนาคารและร้านเบเกอรี่ เพื่อนำไปตรวจสอบประวัติอาชญากร โดยคาดว่าคนร้ายใช้เส้นทางเข้าและออกจากด้านหลังธนาคารฯ และร้านเบเกอรี่ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายได้เข้าไปในธนาคารดังกล่าวเมื่อช่วงเวลา 04.00 น.วันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดราชการติดต่อกัน 3 วัน โดยสัญญาณเตือนภัยของธนาคารได้ดังในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้คนร้ายตกใจรีบปีนกลับออกไป ส่วนร้านเบเกอรี่คนร้ายได้เข้ามาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน โดยเจ้าของร้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนเมืองภูเก็ตได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรบริเวณที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และได้จับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้คือ นายสมชาย แซ่ซิน อายุ 44 ปี ได้เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 66 (ซึ่งผู้ต้องหารายนี้เคยต้องหาคดีลักทรัพย์ปี 2550 และปี 2555 ของ สภ.เบตง) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
