จากกรณีเมื่อเวลา16.58 น.วันที่ 30 เม.ย.65 ร.ต.ท.ญาณภัทร มาลัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชิงทะเล ได้รับแจ้งจากชายชาวออสเตรเลียอายุ 44 ปี ว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.65 เวลา 12.10 น. ลูกสาวของตน อายุ 15 ปี ถูกคนขับรถแท็กซี่ซึ่งจำแผ่นป้ายทะเบียนไม่ได้ ใช้มือจับบริเวณต้นขาของลูกสาวผู้แจ้งภายในรถแท็กซี่ จึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ. เชิงทะเลไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะรีบเดินทางกลับประเทศออสเตรเลียในช่วงเย็นวันเดียวกัน หลังทราบเรื่องทางพนักงานสอบสวนได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตเข้าตรวจสอบ เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงจากแท็กซี่คันดังกล่าว
พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 กล่าวว่า เขาใช้บริการแท็กซี่คันนี้มาหลายรอบแล้วประมาณ 3-4 รอบ เพราะเขาประทับใจ วันที่เกิดเหตุเขาไว้ใจเขาเลยให้ไปส่งลูกสาว ทราบมาว่าลูกสาวเขาชอบให้คนยกยอจึงถามแท็กซี่ว่า ผมเธอสวยไหม เสื้อผ้าสวยไหม แล้วให้แท็กซี่จับดู โดยมีการแตะที่ขาจริง*ซึ่งเธอใส่กางเกงขายาว ทั้งนี้ตัวผู้เป็นพ่อบอกว่าการตัดสินใจของลูกสาวไม่เท่าผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามผู้แจ้งยังไว้ใจแท็กซี่ เขาจึงได้มาแจ้งมาลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อความสบายใจเผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ประสงค์จะร้องทุกข์ดำเนินคดี ส่วนแท็กซี่ก็ขับให้บริการอยู่แถวห้างเซ็นทรัล ขับแท็กซี่มาเป็น 10 ปีแล้วอายุ 50 กว่าปี
ล่าสุดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 1 พ.ค. 65 ร.ต.ท.ญาณภัทร มาลัย รองสว.(สอบสวน) สภ.เชิงทะเล พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 ได้เชิญตัวคนขับรถแท็กซี่รคันดังกล่าวมาให้ปากคำที่สภ.เชิงทะเล โดยได้ตรวจสอบเอกสารคู่มือของรถแท็กซี่คันดังกล่าว พร้อมทั้งนำคลิปเสียงในการสนทนาในวันเกิดเหตุจากกล้องวงจรปิดหน้ารถมาประกอบการให้ปากคำ โดยไม่ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาคนขับแท็กซี่รายดังกล่าวแต่อย่างใด
*แก้ไข มีการจับบริเวณขาเท่านั้น ไม่มีการแตะต้องส่วนอื่น ๆ