ทางเจ้าหน้าที่ ศวอล.ได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 7 (สทช.7) และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม (อช.หาดเจ้าไหม) เพื่อตรวจสอบและติดตามช่วยเหลือพะยูนตัวดังกล่าว โดยเรือสปีดโบ๊ทและเรือยางขนาดเล็กของ อช.หาดเจ้าไหม และเรือพาดหางยาวของชาวบ้าน จำนวนทั้งสิ้น 4 ลำ
จากการสำรวจติดตามพบพะยูนมีอวนปูพันรัดอยู่ที่โคนหางและว่ายน้ำอยู่บริเวณหน้าสะพานปากเมง-เกาะปลิง เจ้าหน้าที่ได้พยายามทำการช่วยเหลือพะยูนเพื่อปลดอวนปูจากโคนหาง แต่ทำการไม่สำเร็จ และพะยูนตัวดังกล่าวดำน้ำหายไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามโดยใช้อากาศยานไร้คนขับชนิดปีกหมุนหลายใบพัด (Multirotor UAV) บินสำรวจบริเวณหน้าสะพานปากเมง-เกาะปลิง ซึ่งใกล้กับจุดที่พบเห็นพะยูน
ผลการสำรวจพบพะยูนไม่มีเครื่องมือประมงพันรัด ขนาดตัวโตเต็มวัย 1 ตัว กำลังแสดงพฤติกรรมลอยตัว และดำน้ำ การทรงตัวปกติ การหายใจปกติ วัดอัตราการหายใจได้ 3 ครั้ง/ 5 นาที ซึ่งจากการตรวจสอบคาดว่าเป็นพะยูนตัวเดียวกันและอวนอาจจะหลุดจากการพันรัดแล้ว โดยคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากพะยูนเข้ามากินหญ้าทะเลในพื้นที่ทำการประมง และเกิดพันรัดกับเครื่องมือประมง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ศวอล. ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ในการเฝ้าระวังการพันรัดกับเครื่องมือประมงซ้ำของพะยูนตัวดังกล่าวต่อไป