นาทีชีวิต! พิษพายุโซนร้อน ‘ชบา’ คลื่นยักษ์ซัดเรือสินค้าจม 7 ชีวิตรอดหวุดหวิด

กระบี่ - เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (4 ก.ค. 2565) พ.ต.ต.ทวีลาภ สุวรรณฤกษ์ สว.ส.รน.1 กก.9 บก.รน. (สารวัตรสถานีตำรวจน้ำกระบี่) และ ศลชล.จ.กระบี่ ได้รับแจ้งจาก นางโสภิยา วัฒนสงค์ ว่าตนเป็นเจ้าของเรือชื่อ’อันดามันสมูท 999” ขาดการติดต่อกับทางบริษัท เมื่อเวลา 14.00 น.

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 5 กรกฎาคม 2565, เวลา 08:59 น.

หลังออกจากท่าเรือยูนิตี้ มุ่งหน้าไปยังเกาะพีพี ติดต่อได้ครั้งสุดท้ายบริเวณทุ่นสัญญาณไฟลูกแรก จากปากร่องน้ำกระบี่ ก่อนจะขาดการติดต่อไป จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเรือ ต.รน-331 พร้อมเจ้าหน้าที่เรือจำนวน 5 ราย

จากนั้นเมื่อเวลา 15.50 น. ได้รับแจ้งจากเรือ ต.รน-331 ว่า พบเรือขนส่งสินค้าลำดังกล่าวอยู่บริเวณเกาะไก่ ห่างจากทุ่นน้ำประมาณ 1 ไมล์ทะเล กำลังลอยลำกลางทะเล มีสินค้าลอยกระจัดกระจายข้าง ๆ เรือ ท่ามกลางคลื่นลมแรง โดยมีลูกเรือ 7 คนอยู่ในเรือ เจ้าหน้าที่จึงช่วยลูกเรือขึ้นบนเรือตรวจการณ์ได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่เรือบรรทุกสินค้าลำดังกล่าวค่อย ๆ จมลง พร้อมกับสินค้าที่อยู่บนเรือบริเวณ แลต 7 องศา 57 ลิปดา 46.4 ฟิลิปดา เหนือ ลอง 98 องศา 53 ลิปดา 17.2 ลิปดา ตะวันออก แบริ่ง 243 ระยะ 3.5 ไมล์ทะเล จากร่องน้ำกระบี่

จากการสอบถามเบื้องต้น นายสุรีย์ รัตนสงค์ ผู้จัดการบริษัท ยูนิตี้ จำกัด ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเรือลำดังกล่าว ได้บรรทุกสินค้าออกจากท่าเทียบเรือ ในเวลาประมาณ 12.30 น.บรรทุกสินค้าไปส่งที่เกาะพีพี มีกัปตันและลูกเรือคนไทยรวม 7 คนอยู่ในเรือ ขณะนั้นสภาพอากาศยังปกติ แต่เมื่อเรือเดินทางผ่านทุ่นไปได้ประมาณ 20 นาที ก็ขาดการติดต่อ จึงติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำและนำเรือของบริษัทอีกลำออกช่วยค้นหา กระทั่งไปพบเรือกำลังจะจมทะเล

สาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เกิดจากคลื่นลมแรงจากพายุโซนร้อน คลื่นได้ซัดช่วงหัวเรือจนเรือจนเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ จากน้ำทะเลได้ไหลเข้าในเรืออย่างรวดเร็ว กัปตันเรือและลูกเรือ พยายามหาทางอุดรอยแยกดังกล่าว แต่ปิดรอยแยกดังกล่าวไม่อยู่ ทำให้เรือค่อย ๆ จมลงหายลงไปในทะเล ส่วนสินค้าบางส่วนได้จมหายลงใต้ท้องทะเล และบางส่วนลอยอยู่เหนือผิวน้ำ สำหรับมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นมูลค่าหลายล้านบาท ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่