ร.ต.ต.บุญเลิศ กล่าวว่า ตนเองได้เคยรับราชการตำรวจที่ สภ.เชิงทะเล มีความจงรักภักดีและเคยได้ถวายงานแด่พระบรมวงศานุวงศ์ และมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระองค์ได้มีต่อพสกนิกรชาวไทย ซึ่งในวันนี้ตนก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อไปแสดงความอาลัยในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพื่อไปส่งเสด็จพระองค์ท่านสู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
ซึ่งคาดว่าจะปั่นได้ระยะทาง 150 กิโลเมตรต่อวัน โดยจะใช้เวลาในการปั่นทั้งหมดประมาณใน 7 วันให้ถึงทันกำหนดในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานครฯ ในระหว่างวันที่ 25-26 ตุลาคม 2560
นอกจากร้อยตำรวจตรี บุญเลิศ แล้วยังมีชาวภูเก็ตอีกหลายรายที่พร้อมใจกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 9
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายสมปอง จุ้ยพลับ อายุ 49 ปี ผู้พิการแขนขาซ้ายขาด ผู้พิการจากภูเก็ตปั่นวีลแชร์สู่กรุงเทพฯ โดยมีผู้ร่วมทางคือบุตรชาย นายธนาวุฒิ จุ้ยพลับ อายุ 15 ปี ที่ได้ปั่นจักรยานเคียงข้าง (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
รวมถึง นายทนงศักดิ์ สามัคคี อายุ 56 ปี ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต ที่ได้เริ่มปั่นจักรยานเสือภูเขาจากจังหวัดภูเก็ตเข้ากรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความอาลัยในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
เมื่อ 25 ก.ย. 3 อส. ภูเก็ตออกเดินเท้าจากจังหวัดภูเก็ตสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อแสดงความอาลัยในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (อ่านเพิ่มเติม คลิก)