ปภ.ปล่อยเรือวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ เสริมประสิทธิภาพระบบแจ้งเตือนภัย สร้างความเชื่อมั่น 

ภูเก็ต - วันนี้ (15 พ.ย. 65) เวลา 13.30 น. ที่ท่าเรือน้ำลึก ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานในการปล่อยเรือวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ ในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 15 พฤศจิกายน 2565, เวลา 17:03 น.

โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กงสุลจากประเทศต่าง ๆ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และเครือข่ายอาสาสมัครภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมงาน สำหรับการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในครั้งนี้เป็นการวางทดแทนทุ่นเดิมในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน ทั้งนี้ การติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิถือเป็นกลไกหนึ่งในการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยสึนามิ เพื่อให้สามารถเตือนภัยได้ล่วงหน้าอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นในระบบเตือนภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว

นายบุญธรรม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใต้ทะเลในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ทำให้เกิดคลื่นสึนามิ สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชน และสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งรอบมหาสมุทรอินเดียเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 230,000 คน และมีประเทศ ที่ได้รับผลกระทบ 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย และไทย ซึ่งภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการป้องกัน และกำหนดมาตรการลดผลกระทบจากคลื่นสึนามิให้มีประสิทธิภาพ รัฐบาล โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบวิเคราะห์คาดการณ์คลื่นสึนามิและระบบแจ้งเตือนภัยของประเทศ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) จึงได้ติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ ไว้ 2 จุด จุดที่ 1 ติดตั้งไว้ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกประมาณ 965 กิโลเมตร และจุดที่ 2 ติดตั้งไว้ในทะเลอันดามัน ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 340 กิโลเมตร ซึ่งการดำเนินการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในครั้งนี้ เป็นการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิชุดใหม่ทดแทนทุ่นเดิม ทั้งในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน เพื่อให้ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิมีความพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพในการส่งต่อข้อมูลไปยังระบบแจ้งเตือนภัยของประเทศ

“การวางระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน ถือเป็นกลไกในการเตือนภัยสึนามิล่วงหน้าให้กับประชาชน เพื่อจะได้ไม่ตื่นตระหนกกับข่าวลือและได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งให้ประชาชนสามารถเตรียมความพร้อมในการอพยพหนีภัยสึนามิได้อย่างทันท่วงที และเป็นการสร้างความปลอดภัยแก่ชีวิตของประชาชน ซึ่งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิที่ดำเนินการติดตั้งในครั้งนี้ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ถ้าหากสามารถช่วยลดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม ขอฝากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรต่าง ๆ สถานประกอบการ อาสาสมัคร เครือข่าย ชาวประมง และประชาชนช่วยสอดส่องดูแลรักษาระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิ รวมถึงหอเตือนภัยและอุปกรณ์เตือนภัยในพื้นที่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายบุญธรรม กล่าว

สำหรับการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิทั้ง 2 ตัว ในครั้งนี้ เรือจะออกจากท่าเรือน้ำลึก จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15.00 น. และจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 รวม 14 วัน ซึ่งการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในประเทศไทยได้ดำเนินการติดตั้งมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2549 ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการในการแจ้งเตือนภัยสึนามิกับองค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA) และได้รับมอบทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิจาก NOAA ประกอบด้วย ทุ่นลอยพร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Surface Buoy) และชุดอุปกรณ์วัดความดันใต้ท้องทะเล (Bottom Pressure Recorder : BPR) โดยติดตั้งห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกประมาณ 965 กิโลเมตร

ซึ่งการทำงานของทุ่นจะติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและส่งผ่านสัญญาณเสียงไปสู่ทุ่นลอยและส่งข้อมูลไปยังดาวเทียม จากนั้นมีการส่งสัญญาณมาที่สถานีรับสัญญาณภาคพื้นดิน และประมวลผลร่วมกับทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิของนานาประเทศ แล้วส่งข้อมูลกลับมายังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ต่อมาเมื่อเดือนมกราคม 2560 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ดำเนินการติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิเพิ่มเติมเป็นจุดที่ 2 ในทะเลอันดามัน โดยติดตั้งห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 340 กิโลเมตร ทั้งนี้ ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิทั้ง 2 จุด มีการบำรุงรักษาตามมาตรฐานของผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องทุก ๆ 2 ปี เพื่อให้ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิมีความพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ปภ. ยังได้บูรณาการด้านการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปอย่างเป็นระบบ มีหน่วยเผชิญเหตุที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีหน่วยปฏิบัติระดับพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา ดูแลพื้นที่จังหวัดสตูล และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต ดูแลพื้นที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง ที่มีความพร้อมในการบริหารจัดการภัยสึนามิในพื้นที่เสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน ถือเป็นกลไกหนึ่งในการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยสึนามิ เพื่อให้สามารถเตือนภัยได้ล่วงหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ชายฝั่งอันดามันของประเทศไทย และประชาชนในภูมิภาครอบมหาสมุทรอินเดีย มีการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยสึนามิและอพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นในระบบเตือนภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่