ผช.ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ตู้รับแลกเปลี่ยนเงิน

ภูเก็ต - เมื่อเวลา 19.30 น. วันนี้ (17 ก.พ. 2565) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 เปิดเผยกับสื่อมวลชน กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565, เวลา 22:54 น.

ของ บริษัท เยส เอ็กซ์เชนจ์ จำกัด ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามห้างบิ๊กซี ถ.ผังเมืองสายกอ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน จนสามารถออกหมายจับคนร้าย คือ นายเสกสรรค์ วงษวิราช อายุ 20 ปี ที่อยู่ ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าเลขที่ 6 ซอยนาใน อยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ในข้อหา​​ “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืน และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทาง  สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” พร้อมของกลาง เงินสดสกุลต่างประเทศ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 226,918 บาท, เงินสด สกุลไทย 3,418 บาท รวมเงินสดที่คนร้ายชิงทรัพย์เอาไปและความเสียหายอื่น ๆ 235,336 บาท

หลังจากจับกุมคนร้ายให้การรับสารภาพต่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล ว่าหลังจากก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไปยังเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ จนกระทั่งวันที่ 15 ก.พ. ได้เดินทางกลับมายังภูเก็ต อีกทั้งได้นำเงินที่ได้มาไปซื้อทองคำที่ห้างแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต จนกระทั่งมาถูกจับกุมที่พักของตนเอง

BAAN KRU JAY INTERNATIONAL KINDERGARTEN

พร้อมของกลางธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 96 ฉบับ, ธนบัตรต่างประเทศ ฉบับละ 50 ยูโร 3 ฉบับ, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ใช้ก่อเหตุ) 1 กระบอก, สร้อยคอทองคำ 1 เส้น, สร้อยคอเงิน 1 เส้น, ใบเสร็จรับเงิน ห้างทองหวังโต๊ะกังเยาวราช 1 ใบ,โทรศัพท์ ยี่ห้อ Iphone 13 pro max 1 เครื่อง,โทรศัพท์ ยี่ห้อ Redmi รุ่น Note 11 จำนวน 1 เครื่อง, กระเป๋าเป้ 1 ใบ, กระเป๋าเดินทางสีฟ้า 1 ใบ, เสื้อยืดสีเทา 1 ตัว, กางเกงขาสั้น สีขาว-ดำ (สวมใส่ก่อนและหลังก่อเหตุ) 1 ตัว, รองเท้าแตะสีเทา (สวมใส่ก่อนและหลังก่อเหตุ)​​ 1 คู่, เสื้อคลุม สีดำมีฮู้ด (สวมใส่ขณะก่อเหตุ)​​​​ 1 ตัว,กางเกงขายาว (สวมใส่ขณะก่อเหตุ)​​จำนวน 1 ตัว, รองเท้าผ้าใบ สีดำ (สวมใส่ขณะก่อเหตุ)​​​ 1 คู่ และถุงมือสีดำ(สวมใส่ขณะก่อเหตุ)​​​​​ 1 คู่

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ในจังหวัดท่องเที่ยวทางเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับการก่อคดีของคนร้าย เนื่องด้วยนโยบายของสตช. ต้องสร้างความปลอดภัยต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งรัดการจับกุมดำเนิคดีกับผู้ก่อเหตุ เพื่อเป็นการป้องปรามว่า การก่อเหตุในพื้นที่นั้นไม่สามารถหนีพ้นการกระทำผิดได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดท่องเที่ยว มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกสถานที่ที่เป็นจุดสำคัญ ฉะนั้นคนร้ายไม่สามารถหนีพ้นเจ้าหน้าที่ได้อย่างแน่นอน อย่างกรณีชาวแคนาดาที่ถูกฆาตกรรมในจังหวัดภูเก็ต ทาง ผบ.ตร.ได้มีการประสานหมายจับกับตำรวจสากลและทางแคนาดาซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่