พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุม 2 มือปืนที่ก่อเหตุยิง นายแมนดีป ซิง อายุ 31 ปี ชาวแคนาดาเสียชีวิตหน้าวิลล่าในพื้นที่ ต.ราไวย์ ค่อนข้างน่าพอใจ แต่รายละเอียดยังขอไม่เปิดเผย แต่จะเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ในส่วนของพาสปอร์ตพบว่า ผู้ตายใช้พาสปอร์ตเล่มจริง แต่เปลี่ยนข้อมูลในเล่ม
จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ตายอาจใช้หนังสือเดินทางหลายเล่ม ซึ่งอาจเป็นไปได้ผู้ตายอาจถือหลายสัญชาติ ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร แต่การเข้ามายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ตมีการสแกนเก็บภาพใบหน้าและเก็บประวัติตามปกติ ขณะเดียวกันถ้าก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยเข้ามายังประเทศไทยกี่ครั้ง และใช้ชื่อของใครและชื่ออะไร ตม.จะต้องไปตรวจสอบย้อนหลัง แต่ว่ายังมั่นใจว่าข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้ถูกต้อง เขาเข้าเมืองไทยวันที่ 27 ม.ค. และอยู่โรงแรมที่ 1 ย้ายไปโรงแรมที่ 2 และเสียชีวิต
“จากการสอบถามไปยังประเทศแคนาดา ปรากฎว่าหนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวของผู้ตายเป็นหนังสือที่ออกจากทางการของประเทศแคนาดาจริง เป็นหนังสือเดินทางจริง แต่มีการนำมาเปลี่ยนข้อมูลเท็จในพาสปอร์ต ทำให้เราไม่สามารถรู้ได้ว่าจริงไม่จริง แม้แต่ทั่วโลกก็ไม่รู้ เพราะเป็นหนังสือเดินทางที่ออกจากทางการของประเทศนั้น ๆ ทั้งนี้เราไม่รู้เลยว่าผู้เสียชีวิตเคยไปก่อเหตุอะไรมาหรือเคยไปทำอะไรมา ตราบใดประเทศนั้นไม่ได้แจ้งเรามา ไม่เคยมีการส่งหมายจับมาให้เรา เราจึงไม่รู้ได้ว่าผู้เสียชีวิตไปทำอะไรมา สำหรับในส่วนของคนร้ายในตอนนี้ก็ยังไม่ฟันธงว่าเป็นคนต่างชาติหรือไม่ ส่วนคนร้ายจะอยู่ในพื้นที่หรือหลบหนีไปแล้วยังไงเราก็ต้องติดตามจับกุมตัวมาให้ได้” พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าจากแนวทางการสืบสวนพบ 2 มือปืนที่ก่อเหตุได้มาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ราไวย์ ก่อนลงมือสังหารผู้ตายราว 1 สัปดาห์ โดยมือปืนทั้ง 2 มักจะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ราไวย์ โดยทำตัวเหมือนกับชาวต่างชาติที่อยู่ในภูเก็ตทั่วไป จึงเชื่อได้ว่ามือปืนอาจจะอยู่ในพื้นที่หรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย จนผู้ตายเดินทางมายัง จ.ภูเก็ต จึงสบโอกาสลงมือสังหารเนื่องจากผู้ตายอยู่เพียงลำพัง
ข้อมูลเพิ่มเติม: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต