ผอ.สถานสงเคราะห์ฯ เผยผู้สูงอายุฉีด 3 เข็ม แยกผู้ป่วย งดเยี่ยม ไม่มีผู้เสียชีวิต

ภูเก็ต – ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดภูเก็ตเผย ผู้สูงอายุที่ติดโควิดอาการไม่รุนแรงเพราะได้รับการฉีดวัคซีน 3 เข็ม ไม่มีผู้เสียชีวิตมีการแยกผู้ป่วย และดูแลอย่างใกล้ชิด ทางด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เผยผลการตรวจ ATK พบผู้สูงอายุติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 30 คน และได้ทำการแยกผู้สูงอายุที่เหลือไปพักอยู่อีกตึกหนึ่งแล้ว

เอกภพ ทองทับ

วันเสาร์ ที่ 30 กรกฎาคม 2565, เวลา 10:09 น.

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. นางสาวผึ้งพันธ์ เผ่าจินดา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ศูนย์ฯ เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมกิจการผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นกรมที่ดูแลผู้สูงอายุมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่ม 608 ของจังหวัดภูเก็ต มาตรการในการดูแลได้ยึดมาตรการของทางกระทรวงสาธารณสุข และมาตรการของกรมกิจการผู้สูงอายุ ซึ่งทางผู้บริหารมีนโยบายในเรื่องที่ห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปยังภายในของสถานที่ แม้กระทั่งตัวของญาติของผู้สูงอายุเองก็ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ เนื่องจากว่าต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของการติดเชื้อโควิด

ผู้สูงอายุในปัจจุบันมีอยู่จำนวนกว่า 70 คน ซึ่งผู้สูงอายุแต่ละรายมักจะมีโรคประจำตัว ต้องมีการดูแลโดยการส่งไปรักษาในสถานพยาบาลต่าง ๆ เพื่อรักษาตามอาการของผู้สูงอายุ  

“สำหรับมาตรการการดูแลความปลอดภัยของโรคโควิด ตอนนี้เจ้าหน้าที่เองคือทุกคนต้องมีการตรวจคัดกรองโควิดทุกครั้งที่เป็นวันหยุดในช่วงที่มีวันหยุดยาว อันที่สองจะมีทีมเจ้าหน้าที่ที่แบ่งเป็น 2 ส่วนคือเจ้าหน้าที่สำนักงาน ที่ต้องทำงานภายนอกหรือต้องลงพื้นที่ชุมชน ซึ่งจะไม่ให้มีการพบปะกับผู้สูงอายุ ส่วนเจ้าหน้าที่ภายในที่เป็นแม่ครัว พนักงานขับรถและพี่เลี้ยงต้องมีการตรวจโควิดทุก ๆ สัปดาห์ก่อนเข้าปฏิบัติงานในแต่ละรอบ”

“ในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ได้มีการระวังเป็นอย่างมากในการที่จะดูแลผู้สูงอายุ สำหรับผู้สูงอายุที่ไปโรงพยาบาลในแต่ละรอบก็จะมีการสุ่มตรวจคนที่ไปโรงพยาบาลบ่อย ๆ ประมาณสองอาทิตย์ครั้ง หรือเดือนละครั้ง ส่วนผู้สูงอายุที่เป็นโรคไตที่ต้องไปรักษาประจำก็จะมีการแยกผู้ป่วยกลุ่มนี้ให้อยู่ต่างหาก ไม่ให้มาปะปนกันกับผู้สูงอายุท่านอื่น ๆ เพราะว่ากลุ่มนี้จะเข้าโรงพยาบาลวันเว้นวัน สำหรับมาตรการในเรื่องของจุดรับบริจาค หรือจุดที่บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปข้างในได้เลย หน่วยงานต่าง ๆ ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ ตอนนี้มีการจำกัดพื้นที่ของผู้สูงอายุที่อยู่ภายใน ยกเว้นกรณีที่ไปโรงพยาบาลเท่านั้นที่จะได้ไปข้างนอก กรณีอื่นไม่สามารถออกได้เลย เพราะว่ามีการเข้มงวดในเรื่องการป้องกันโรค” น.ส.ผึ้งพันธ์ กล่าว

ในกรณีที่มีการติดเชื้อโควิดของผู้สูงอายุ น.ส.ผึ้งพันธ์ กล่าวว่า ขั้นแรกจะมีการแยกผู้ป่วยออกม าและจะมีการตรวจทั้งหมดตรวจร่วมกับทาง รพ.สต.โรงพยาบาลถลาง และจะการแยกอาคารเพื่อกักบริเวณและกั้นเชือกที่เป็นสีแดงไว้ ในส่วนของผู้ป่วยที่ไม่ติดเชื้อก็มีการกั้นบริเวณ ไม่ให้มีการมาปะปนกันแล้วก็หยุดรับประทานอาหารร่วมกัน มีการแยกกันกินกันอยู่อย่างเป็นสัดส่วน รวมทั้งมีการติดตามตรวจสอบอาการของคนที่ติดเชื้ออยู่ตลอดเวลา

“ทุกรายที่พบการติดเชื้อจะมีการเอ็กซ์เรย์ปอด เพื่อดูว่าภาวะนี้มันจะทำความรุนแรงแก่ผู้สูงอายุหรือไม่ สำหรับในส่วนผู้ดูแลก็จะมีคนดูแลอยู่ตลอดเวลา และขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดแต่อย่างใด” น.ส.ผึ้งพันธ์ กล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่า ผู้สูงอายุทั้งหมดนั้นได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบทุกคนจำนวน 3 เข็ม ซึ่งก็จะทำให้ลดความรุนแรงของโรคได้

“อาการของผู้ที่ติดเชื้อพบว่ามีอาการไม่รุนแรง มีอาการเหมือนเป็นไข้หวัด มีน้ำมูก ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการดูแลอย่างใกล้ชิด หลังพบว่ามีการติดเชื้อของผู้สูงอายุในศูนย์ฯ ทางศูนย์ก็ได้มีการเพิ่มมาตรการในการดูแลป้องกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และได้ดำเนินการรักษาตามที่ทางแพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด” น.ส.ผึ้งพันธ์ กล่าว

ในขณะที่ NBT ภูเก็ต รายงานเพิ่มเติมว่า นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หลังได้รับการแจ้งจากสถานสงเคราะห์ฯ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.65 ว่า พบว่าสถานสงเคราะห์ฯ มีผู้สูงอายุพักอาศัยอยู่ทั้งหมด 74 คน และเจ้าหน้าที่ 29 คน รวมทั้งสิ้น 103 คน ผลการตรวจ ATK พบผู้สูงอายุติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 30 คน จึงได้ทำการแยกผู้สูงอายุที่เหลือไปพักอยู่อีกตึกหนึ่ง

ต่อมาวันที่ 28 ก.ค. เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจ ATK ผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยงซ้ำอีกครั้ง พบติดเชื้อเพิ่ม 15 คน รวมเป็น 45 คน (ผู้สูงอายุ 42 คน ผู้ดูแล 3 คน) มีผู้ป่วย 1 คน ที่ต้องเข้ารับการรับรักษาที่ รพ.ถลาง เนื่องจากมีโรคแทรกซ้อน พร้อมทั้งแนะนำให้แยกผู้ป่วยเป็นกลุ่ม คือ กลุ่มป่วย กลุ่มเสี่ยง(สัมผัสผู้ป่วย) และกลุ่มทั่วไป(ไม่สัมผัสผู้ป่วย) โดยกลุ่มเสี่ยงตรวจ ATK ซ้ำทุก 3-5 วัน และกลุ่มปกติ ตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ จากนั้นในวันที่ 29 ก.ค. เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ป่าคลอก ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคเพิ่มเติม และไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม

สำหรับรายงาน สสจ.ภูเก็ต ผลสรุปประจำวันล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.65 ได้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12 ราย ผู้ติดเชื้อกลับบ้าน 18 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เสียชีวิตสะสม 143 ราย กำลังรักษาตัว 80 ราย

ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

 

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่