ผอ.โรงเรียนเอกชนภูเก็ตโต้กลับ ไม่ได้ทำร้ายเด็ก ป.2 อย่างที่ถูกกล่าวหา

ภูเก็ต - จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 65 นายอนันตรักษ์ เพ็รชหิน ทนายความ พร้อมด้วยครอบครัวของเด็กชายอายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้ามาร้องทุกข์ยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต

เอกภพ ทองทับ

วันอาทิตย์ ที่ 11 กันยายน 2565, เวลา 10:33 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

โดยมี นายจรัญ ขวัญแก้ว นิติกรชำนาญพิเศษ รก.ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต รับเรื่องไว้พิจารณา ทั้งนี้สืบเนื่องจากผู้ปกครองของเด็ก สังเกตเห็นว่าบุตรหลานของตัวเองมีรอยบวมแดงตรงหน้าผาก พอถามว่าไปโดนอะไรมา เด็กบอกเพียงว่า “ผอ.ไม่ดี ผอ.ไม่ดี” ทำให้ผู้ปกครองเกิดความสงสัย ระหว่างนั้นน้องสาววัย 4 ขวบ ของเด็กชายได้บอกว่า ตนเห็นพี่ชายถูก ผอ.จับฉีกปาก ก่อนเอาหัวโขกกับผนังห้องอย่างแรง สาเหตุจาก ผอ.ไม่พอใจที่ ด.ช.เอ วิ่งเข้ามาเล่นในห้องช่วงเลิกเรียน 

ปรากฏว่าผู้ปกครองเด็กถึงกับช็อก เพราะไม่คาดคิดว่าผู้บริหารของโรงเรียนจะทำเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นว่าแผลที่ปรากฏ กับคำพูดของเด็กทั้งสองสอดคล้องต้องกัน จึงเชื่อว่าเด็กไม่น่าจะโกหกอย่างแน่นอน จึงหานักกฎหมายเพื่อปรึกษาหารือเอาผิดกับ ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งหลังจากแจ้งเรื่องให้ทางศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ได้พิจารณาแล้ว ก็จะเดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับ ผอ.โรงเรียนรายนี้ที่ สภ.เมืองภูเก็ต ด้วย

ต่อมาในช่วงบ่ายวันที่ 10 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนเทพอำนวยวิทยา ถ.เทพกระษัตรี อ.เมือง จ.ภูเก็ต ภายในห้องพบ นายคมกฤษ หนุนใจ ผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชนดัง ซึ่งผู้ปกครองของเด็กชายที่ผู้ปกครองเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองภูเก็ต โดยกล่าวหาว่า ผอ.ได้ทำร้ายร่างกายน้อง โดยการผูกหัวน้องนินจากับฝาผนังและฉีกปากน้องภายในห้องผู้อำนวยการ

พบว่าทางนายคมกฤษได้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาหลักฐานในวันเกิดเหตุ จากนั้นผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถามความเป็นมาจากเจ้าตัวโดยตรง 

นายคมกฤษได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุได้มีน้องเข้ามานั่งเล่นคอมพิวเตอร์ภายในห้องทำงานจริง ซึ่งก่อนหน้านั้นน้องก็เคยเข้ามาเล่นคอมพิวเตอร์ภายในห้องทำงานบ่อยครั้ง แต่ตนก็ไม่เคยดุด่าอะไร แต่บางครั้งหากตนไม่อยู่ในห้องพัก ซึ่งตนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นภายในโรงเรียน ก็จะให้น้องออกจากห้อง เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายจากไฟฟ้าช็อต ภายในห้องมีปลั๊กพ่วงกับอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชิ้น และตนทราบดีว่าน้องเป็นเด็กพิเศษ

"ส่วนในด้านที่จะลงมือทำร้ายร่างกาย เหมือนกับที่ผู้ปกครองไปแจ้งความนั้น ไม่เป็นความจริง ขณะนี้พยายามปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พร้อมหาหลักฐานจากกล้อง CCTV เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวหา หากผู้ปกครองของน้องมีปัญหาอะไร ก็น่าจะเข้ามาพูดคุยปัญหานั้นกันก่อน ส่วนชนวนที่เกิดขึ้น อาจจะเกิดจากปัญหาที่ฝ่ายการเงิน ได้มีหนังสือแจ้งเตือนค่าเทอม ซึ่งค้างค่าเทอมตั้งแต่ปี 2564 แต่ผู้ปกครองก็ไม่ได้เข้ามาไกล่เกลี่ย" นายคมกฤษ กล่าว

ทางด้าน นายไทวิวัฒน์ ปัจอังคาร ซึ่งเป็นครูประจำชั้นพี่ชายของน้อง กล่าวว่า ตนทราบดีว่าน้องเป็นเด็กพิเศษ มาโรงเรียนก็ไม่ค่อยได้เรียน ส่วนมากจะวิ่งเข้าออกห้อง ผอ. และฝ่ายการเงินเป็นประจำ 

“บางครั้งน้องก็นอนบนโซฟาภายในห้องการเงิน หน้าห้องผอ.และเข้าไปเล่นคอมพิวเตอร์ภายในห้อง ผอ.บ่อยครั้ง ส่วน ผอ.เท่าที่ผมสัมผัสมา ผอ.เป็นคนอัธยาศัยดี” นายไทวิวัฒน์ กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่