โดยการใช้มือง้างและฉีกปาก โขกกับฝาผนังห้องของ ผอ. จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ เด็กชายเกิดความวิตกกังวล กลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก โดยวันนี้ได้ทางผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ ผอ.คนดังกล่าวไว้ที่ สภ.เมืองภูเก็ตแล้ว
ผู้ปกครองของน้องกล่าวว่า ทางญาติรู้สึกว่าบาดแผลภายนอกไม่เท่าไหร่ แต่สำคัญคือเรื่องของบาดแผลในจิตใจมากกว่า ทุกคนรู้สึกห่อเหี่ยว ร้องไห้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ที่ทราบข่าว จากลูกสาวที่โทรมาแจ้งข่าว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความและขอความเป็นธรรมในวันนี้ เนื่องจากเกรงว่าเด็กจะถูกทำร้ายอีก โดยได้เรียกร้องให้ไล่ออกก่อนเกิดเหตุร้านแรงกับเด็ก
ทางด้าน ทนายอนันตรักษ์ เพ็รชหิน กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องตนก็ได้แนะนำให้ผู้ปกครองเข้าแจ้งความ โดยมีอดีตคุณครูที่เคยสอนในโรงเรียนดังกล่าวยินดีที่จะให้ข้อมูล เนื่องจากทนกับพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนไม่ไหว จึงลาออกมาและยินดีที่จะมาเป็นพยานในการเรียกร้องสิทธิ์ ซึ่งนอกจากมีการทำร้ายนักเรียนรายนี้แล้ว ทางโรงเรียนยังมีข้อห้ามที่ไม่สมเหตุสมผล และเรื่องไม่ชอบธรรมอื่น ๆ ด้วย ตนซึ่งเป็นทนายจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ เพื่อจะใช้กฎหมายให้เป็นประโยชน์กับเด็กชายและครอบครัว และจะต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด
“ตอนนี้เข้าแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้ว กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และน่าจะมีการเรียกมาพูดคุย ทั้งนี้เนื่องจากมีกระบวนการทางกระทรวงศึกษาธิการเข้ามาเกี่ยวข้อง เราจึงต้องพึ่งหน่วยงานงานของรัฐที่พร้อมดูแลและมีความยุติธรรมที่สุด นั่นคือศูนย์ดำรงธรรม หวังว่าศูนย์ดำรงธรรมจะเป็นหน่วยงานที่เข้ามาดูแลปัญหาของพี่น้องประชาชน สำหรับเรื่องนี้ถ้าเรื่องนี้มีอยู่จริง แต่ผมยังไม่ได้ฟังความทั้งสองฝ่าย” ทนายอนันตรักษ์ กล่าว
ส่วนอดีตครูที่เคยสอนในโรงเรียนดังกล่าว เล่าว่า ภายในมีปัญหาหลายเรื่องเรื้อรัง แต่ไม่มีใครลุกขึ้นมาสู้ สำหรับ ผอ.คนปัจจุบันนี้เป็นคนที่เอาความเชื่อของตัวเองเป็นหลัก ไม่ค่อยรับฟังคุณครูหรือเด็ก ๆ สำหรับน้องที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ
“เมื่อก่อนเวลามีปัญหา น้องจะไปลงไปห้องครูใหญ่ ครูใหญ่คนเก่าก็จะให้เล่นเลโก้เพื่อช่วยในเรื่องพัฒนาการของเขา ครูใหญ่คนนี้ไล่เขา แล้วก็มีทำร้ายเขาบ้าง” เธอกล่าวและเล่าต่อไปอีกว่า เธอนั้นเคยสอนในโรงเรียนดังกล่าวตั้งแต่ยุค ผอ.คนเก่า กระทั่งตัดสินใจลาออกเนื่องจากการบริหารของผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบัน
