ผู้เสียหายเงินกู้แห่ร้องสื่อ โดนพนักงานธนาคารหลอกโอนเงินทำประกันแล้วเชิดหนี

ภูเก็ต - ผู้เสียหายทำสินเชื่อกับธนาคารแห่งหนึ่ง โดนพนักงานธนาคารหลอกให้โอนเงิน ทำประกันแล้วเชิดเงินหนี แห่ร้องสื่อ หวั่นธนาคารไม่รับผิดชอบ

เอกภพ ทองทับ

วันเสาร์ ที่ 22 เมษายน 2566, เวลา 18:18 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

จากกรณีเมื่อวันที่ 20 เม.ย.66 เพจโหดจัง-จังหวัดภูเก็ต ด่วนๆ #หลอก กันได้ลง #พนักงานธนาคาร ฝ่ายสินเชื่อแห่งหนึ่งในภูเก็ตหลอกให้ลูกค้า #โอนเงิน แล้วชิ่งหนี ทำทีมาปล่อยสินเชื่อแล้วหลอกให้โอนเงินค่าประกัน ด้านผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เชื่อทำเป็นกระบวนการ น่าจะมีคนในธนาคารมีส่วนรู้เห็นด้วย  ด้าน #ผู้เสียหาย จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทนายความดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องวันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2023 นี้ เวลา 10.00 น. ผู้เสียหายเชื่อมีหลายราย หากใครถูกหลอกลวงแบบนี้ให้ไปรวมตัวแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานธนาคารดัง ตามวันเวลาดังกล่าว!

ล่าสุดวันนี้ (22 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับผู้เสียหายจำนวน 2 ราย ที่ได้ทำกู้สินเชื่อกับธนาคารแห่งหนึ่ง แต่พนักงานธนาคารหลอกให้ทำประกัน โดยให้โอนเงินเข้าบัญชี ก่อนที่จะชิ่งหนีไป เมื่อเข้าพบกับทางธนาคาร แต่ไม่มีความมั่นใจ ว่าจะได้เงินกลับคืนมา

น.ส.ณัฐธยาน์ อมรนิธิ ปภัสร์ อายุ 49 ปี ผู้เสียหายรายแรกกล่าวว่า ตนจะทำเรื่องกู้บ้าน เจ้าหน้าที่ของธนาคาร ได้เจอร้านกาแฟในโลตัสสามกอง โดยตนได้นำเอกสารไปให้ อีกฝ่ายได้พูดคุยรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงนโยบายธนาคาร บอกตนว่าจะต้องทำประกันอัคคีภัยก่อน พร้อมกับการยื่นกู้และถ้าไม่ผ่านประกันอัคคีภัยที่จ่ายไปจะคืนภายใน 7 วัน และเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องโอนเงินรอบแรก ซึ่งก็โอนวันที่ 8 เม.ย. ยอด 39,500 บาท หลังจากนั้นผ่านไปสัก 2 วัน โทรมาบอกว่า ด้วยหลักทรัพย์มูลค่ามากให้ตนโอนเพิ่มในวันที่ 11 เม.ย. ตนโอนเพิ่มอีก 36,600 บาท

"เขาพูดเหมือนเดิมว่านโยบายแบงค์ต้องจ่ายเป็นเงินสด เขาบอกโอนเข้าบัญชีเขาได้เลย ถ้าไม่ผ่านเขาจะคืนให้ภายใน 7 วัน เวลาผ่านไปก็คอยตามเรื่อย ๆ ว่าผ่านไหม เขาก็บอกว่าไม่ผ่านเดี๋ยวจะทำเรื่องคืนเงินให้ ผ่านไปนัดมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดในวันที่ 20 เม.ย. ว่าจะคืนให้ แต่ติดต่อไม่ได้หายไปเลย เขาหนีไปบ้านเขาที่นครศรีธรรมราช” น.ส.ณัฐธยาน์ กล่าว พร้อมเล่าต่อว่า จากนั้นตนสงสัยว่าทำไมผลัดไปมา จึงเข้าไปธนาคารและเจอผู้จัดการสาขา ตนได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังและทางผู้จัดการได้แนะนำว่าให้ทำตามขั้นตอนโดยให้แจ้งความก่อน หลังจากนั้นผู้จัดการสาขาได้เชิญผู้การฝ่ายสินเชื่อมาคุย และได้ทราบว่ามีหลายคนที่โดนแบบตน

“เขาทำงานมา 6 ปีแล้ว อยากให้แบงค์มาดูแลประชาชน เพราะถ้าทำในนามบุคคล เราไม่ทำอยู่แล้ว ลักษณะนี้ตั้งใจโกง ปกติที่เคยได้ยินข่าวทางคอลเซ็นเตอร์ พยายามหลีกเลี่ยงแต่นี้มาตัวเป็น ๆ อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคน” น.ส.ณัฐธยาน์ กล่าว

ด้านผู้เสียหายอีกราย นายรัชชธีร์ ศรีธนสารวงศ์ อายุ 44 ปี กล่าวว่า เดิมทีตนตั้งใจจะรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อจะทำธุรกิจเพิ่มจึงติดต่อหาเพื่อน เพื่อนได้ช่วยแนะนำโดยให้เบอร์โทรแก่ตน

“เขาอธิบายว่าการทำสินเชื่อต้องทำอย่างไรบ้าง วันรุ่งขึ้นเขาเข้ามาหามาขอสเตทเม้นย้อนหลัง เอกสารบัตรประชาชนขอไปทุกอย่าง เขาบอกถ้าจะให้รีไฟแนนซ์ผ่าน ให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวเขาเลย แล้วเขาจะเอาเข้าธนาคารให้ เขาให้โอนค่าประกันอัคคีภัยมาก่อน 17,900 บาท  เราก็โอนวันนั้นเลย แล้วเขาก็มาที่ร้านอีกมาทำวีดีโอ ว่าเราทำธุรกิจอะไรบ้าง เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ หลังจากนั้นก็โอนยอดไป เพื่อให้ธนาคารเห็นว่าเรามีศักยภาพในการผ่อน” นายรัชชธีร์ กล่าว

“หลังจากโอนเสร็จ เขาดูเอกสาร แล้วบอกกลัวว่าจะไม่ผ่าน ต้องให้แฟนมากู้ร่วม เราก็นำเอกสารแฟนมากู้ร่วม เขาบอกว่ามีค่าประกันค่าสุขภาพเพิ่มยอด 86,130 บาท ถ้าของแฟนไม่ผ่านจะโอนคืนมาให้ภายใน 7 วัน เราเชื่อใจเพราะถ้าไม่ผ่านก็จะได้เงินคืนมา หลังจากนั้นก็เรื่องผ่าน เขาก็เลื่อนนัดเรื่อย ๆ เขาบอกจะโอนยอด 80,000 บาท มาให้แต่ก็ยังไม่โอน ตนยังไม่เอะใจ คิดว่ายังมีความหวังว่าต้องผ่าน” 

นายรัชชธีร์ กล่าวต่อไปอีกว่า “เขาบอกว่าเราติดสินเชื่ออยู่ตัวหนึ่งที่ส่งล่าช้าไปประมาณ 3-4 อาทิตย์ เราไม่เคยค้างใครเลย พวกเราจะกลัวมากเกี่ยวกับสินเชื่อ เราจะจ่ายให้หมด ยอด 154,530 บาท พอชำระหมดเขาก็เลื่อนต่ออีก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพิ่งได้พบกับผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อ ไปถามว่าที่เราไปทำเรื่องเอกสารรีไฟแนนซ์บ้านไปเอกสารทั้งหมดอยู่ที่ธนาคารไหม แต่สรุปว่าเอกสารทั้งหมดไม่ได้เข้าธนาคารเลย ทางธนาคารกำลังตามเจ้าหน้าที่คนนี้ให้”

“ขอแค่หาเงินมาคืนเงินก็จบเพราะว่าเราเดือดร้อน ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งความ คิดว่าจะไปวันมะรืนนี้เพราะมีผู้เสียหายอีกคนที่โดนเกือบ 4 แสนกว่าบาทจะไปพร้อมกัน ตอนนี้เขาออกบวชไม่อยากวุ่นวายโทรหาเขา”

นายรัชชธีร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ หากจะทำเรื่องการเงินให้ไปที่ธนาคารโดยตรง เพราะในกรณีของตนตนไม่ได้ไปที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่มาหาตนที่บ้าน บอกว่าเขาเป็นฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร ตนจึงไม่คิดว่าจะมีอะไร ขอแนะนำว่าถ้าจะทำธุรกรรมการเงินไปทำที่ธนาคารดีกว่า 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่