จากกรณีมีชาวต่างชาติใช้โดรนบินภาพจระเข้ขนาดใหญ่กำลังว่ายน้ำอยู่บริเวณชายหาดแห่งหนึ่ง ใน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ก่อนมีการเผยแพร่ทางสื่อจนเป็นที่พูดถึงเป็นจำนวนมาก (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
ล่าสุดนาย นรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี วิกรม จากที่ นายอำเภอถลาง และนายไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ประมงจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ยอดทอง รองผกก.ป.สภ.เชิงทะเล และกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่พบจระเข้ ซึ่งปรากฏตามภาพวีดิโอ พบว่าอยู่ใกล้โรงแรมแห่งหนึ่ง ริมหาดหาดเลพัง ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างหาดบางเทาและหาดลายัน โดยพบว่ายังมีนทท.ลงเล่นน้ำท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด แต่ก็มีน้อยมาก เนื่องจากทางโรงแรมได้แจ้งให้ระมัดระวัง
ซึ่งจากการลงพื้นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการพูดคุยกับผู้ดูแลพื้นที่หน้าชายหาดซึ่งยืนยันว่าในวันที่ 24 – 25 สิงหาคมที่ผ่านมา มีพนักงานและนทท.หลายคนพบเห็นจระเข้ตัวดังกล่าวแต่อยู่ในระยะไกลจึงไม่แน่ใจว่า ก่อนที่นายไมค์ จะใช้โดรนบินถ่ายภาพ ไว้ได้
นายนรภัทร เปิดเผยภายหลังตรวจสอบว่า หลังจากการตรวจสอบทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติซึ่งใช้โดรนถ่ายภาพแล้วพบว่า อยู่ในเหตุการณ์วันที่ 24-25 ส.ค.จริง และคาดได้ว่าจะเป็นจระเข้จริง จึงให้ประมงจังหวัดประสานไปยังหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ ในการจับจระเข้มาแสตนด์บาย ร่วมในมาตรการเฝ้าระวัง ในส่วนของหน่วยงานในพื้นที่ก็ให้ช่วยเฝ้าระวังพร้อมเร่งสำรวจพื้นที่ของตนเองที่มีแนวโน้นหรือเป็นสถานที่ที่เป็นไปได้ว่จระเข้จะเข้าไปหลบหรืออาศัย ซึ่งจากข้อมมูลภาพถ่ายที่พบทางประมงจังหวัดยืนยันว่าเป็นจระเข้น้ำจืด และในละแวกใกล้เคียงบริเวณที่พบไม่งได้เป็นที่อยู่อาศัยของจระเข้น้ำเค็ม จึงต้องมีการตั้งทีมตรวจสอบติดตามตัวจระเข้
โดยฝากถึงพี่น้องประชาชนและนทท.ให้ทราบว่า ในเรื่องความปลอดภัยนั้น ปกติทุกชายหาดจะมีเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดของทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดของทางโรงแรมคอยดูแล โดยได้ขอความร่วมมือให้ช่วยนำเรือหรือเจ็ทสกีออกขับสำรวจตลอดแนวชายหาดออกไปนอกชายฝั่งของแต่ละพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นใจ และนอกจากนี้ได้ประสานให้มีการใช้โดรนขึ้นบินตรวจสอบ เพราะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนหากพบเห็นจระเข้ อย่างไรก็ตามทุกพื้นที่ก็จะต้องแจ้งให้นทท.ทราบ เพื่อจะได้ระวังตัวมากขึ้น
ด้านนายไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ประมงจังหวัดภูเก็ตกล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมที่บริเวณดังกล่าว (พื้นที่ อ.ถลาง) มีการขออนุญาติเลี้ยงจระเข้อยู่ 2 ฟาร์ม หรือ 2 ราย แต่เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมาได้มีการขายจระเข้และแจ้งยกเลิกไปแล้วทั้งหมด ซึ่งทำให้จากข้อมูลแถบนี้ไม่มีการเลี้ยงจระเข้อีก แต่ก็เป็นไปได้ว่าจระเข้น้ำจืดจากแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับทะเลขนาดใหญ่ซึ่งในพื้นที่ อ.ถลางมีอยู่ 3 – 4 แหล่ง ซึ่งน่าจะเป็นที่อยู่ออาศัยของจระเข้
ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทีมผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นความร่วมมือทั้งหน่วยงานท้องถิ่น ผู้ประกอบการโชว์จระเข้ ผู้ประกอบการในพื้นที่ และประชาชน มาทำการเฝ้าระวังตามแนวชายหาดและจุดใกล้แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ ตลอด24 ชั่วโมง หากพบก็จะใช้วิธีการต่างๆเช่น ห่วงหรืออวนล้อมจับ
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเพิ่มเติมที่ชายหาดพบว่า หลายหน่วยงานทั้งเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล ได้นำเรือออกค้นหาและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในบริเวณชายหาด 3 หาด คือหาดบางเทา หาดเลพัง ต่อเนื่องไปถึงหน้าที่ทำการหน่วยพิทักอุทยานหาดลายัน ซึ่งยังไม่พบเห็นจระเข้แต่อย่างใด
