โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.เมืองภูเก็ตแล้ว และเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้แถลงข่าวชี้แจงการรักษาพยาบาลเด็กทารก เนื่องจากไม่พบร่องรอยฟกช้ำ หรือบาดแผลภายนอก จึงสันนิษฐานว่า สาเหตุที่ทำให้กระดูกแขนซ้ายของทารกหักมาจากการที่ห่อตรึงไว้ โดยเฉพาะบริเวณแขนที่ปิดหมุนแนบลำตัวค่อนไปทางด้านหลัง และมีแรงกระแทกบริเวณศอกจากการยก-วางทารก ส่วนแนวทางการรักษากระดูกต้นแขนข้ายหัก แพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อได้ให้การรักษาด้วยวิธีการที่ทำให้ทารกสบายตัวมากที่สุด โดยแพทย์ใช้วิธีการใช้ผ้าดามยึดแขนที่หักไว้กับลำตัวเด็กเป็นเวลา 2 -3 สัปดาห์ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าเฝือก หรือผ่าตัด เนื่องจากกระดูกของทารกจะมีการเชื่อมประสานกันเอง และจะนัดติดตามอาการหลังจำหน่ายจากโรงพยาบาล
และทางโรงพยาบาลจะสืบหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ พร้อมยืนยันจะดูแลรักษาและเยียวยาอย่างเต็มที่ แต่ทางพ่อแม่เด็กทารกไม่มั่นใจในการทำงานของโรงพยาบาล จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเอาผิดกับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
นายจักรกฤช กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองภูเก็ต ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบแค่ค่ารักษาดูแล แต่การรับผิดชอบคนที่กระทำกับเด็กเรายังไม่รู้ จึงตัดสินใจมาแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางโรงพยาบาลตั้งกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว แต่ไม่กำหนดวันแจ้งผล จึงอยากให้หน่วยงานข้างนอก เช่น ตำรวจ ศูนย์ดำรงธรรม และ สื่อมวลชน เป็นต้น เข้าไปช่วยตรวจสอบในตรงนี้ให้ด้วย
"ตอนนี้เรามีความเครียดคือกังวลการรักษาน้อง ในอนาคตกังวลว่าแขนเขาจะผิดรูปหรือไม่ จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะตอนที่เขาเกิดมาปกติทุกอย่าง แต่ตอนนี้เหมือนกับมีตำหนิไปแล้ว เราอยากทราบผลการทำงานของโรงพยาบาลว่าใครเป็นคนทำให้เด็กแขนหัก จึงมาแจ้งความเพื่อให้กระตุ้นทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตให้ทำงานเร็วขึ้น เพราะรู้สึกว่าโรงพยาบาลปกปิด และเราไม่มีความเชื่อมั่นกับโรงพยาบาลตั้งแต่แรกแล้ว แต่ต้องยินยอมให้รักษาให้เต็มที่ก่อน และขอให้กรณีนี้เป็นกรณีสุดท้ายจริง ๆ ไม่อยากให้เจอกับคนอื่นอีก อยากให้เอาผิดกับคนที่กระทำความผิดให้รับผิดชอบตามกฎหมาย" นายจักรกฤช กล่าว
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต จะรับเรื่องและติดตามเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนในการดูแลเด็กทารกทำการสอบปากคำ เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิด ในเบื้องต้นยังไม่ระบุข้อกล่าวหา เพราะยังไม่ทราบตัวผู้กระทำความผิด แต่ได้ตั้งไว้เบื้องต้นในเรื่องอุบัติเหตุ ประมาท และจงใจกระทำผิด หากสอบสวนครบแล้วไม่พบตัวผู้กระทำความผิด จะส่งเรื่องไปยังแพทยสภาเพื่อดำเนินการต่อไป